| กระตุ้นความคิด ด้วยไอเดีย ๖ (Swop-ในหนึ่งที่ยืน)

COOLSWOP ไอเดียเด็ด แลกเปลี่ยนสินค้าในโลกออนไลน์

ตั้งแต่มนุษย์ ก่อตั้งสังคมการค้า ในระดับแรกๆ คือการแลกข้าวของกัน กระทั่งวันหนึ่งเรามีสื่อกลางเป็นเงินตรานี่แหละ เราจึงตีค่าของสินค้าตลอดจนทุกสิ่งในชีวิตให้เป็นมูลค่าเงินไปเสียหมด

ในทางหนึ่งก็นับว่าเป็นสิ่งดี เพราะทำให้เกิดธุรกิจที่คิดต่างขึ้น เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่ไม่หยุดนิ่งกับความต้องการการซื้อขายแบบเดิมๆ

คุณวราฤทธิ์ มังคลานนท์ ดีเจแห่งคลื่นแฟต เรดิโอ 104.5 FM มีความคิดวนเวียนเกี่ยวกับเรื่องนี้มานาน ประกอบกับมีเงินทุนอยู่ก้อนหนึ่งสำหรับทำธุรกิจส่วนตัวขึ้น (แต่ต้องเป็นเรื่องที่เขาทำแล้วรักด้วยนะ) http://www.coolswop.com/ จึงได้เปิดตัวขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2551 โดยแนวคิดหลักของเว็บคือการเป็นสื่อกลางสร้างชุมชนที่สนใจการแลก “ของต่อของ” กัน ไม่มีเงินก็มีของใหม่ (มือสอง) มาใช้ได้ เหมาะกับยุคเศรษฐกิจถลอกเลือดออกซิบๆ แบบนี้

ต้นทางของแนวคิด เริ่มจากคุณวราฤทธิ์ได้ดูรายการสารคดีทางโทรทัศน์ ที่พูดถึงเรื่องราวสมัยก่อนที่ยังไม่มีเงินใช้ ผู้คนเอาของมาแลกกัน บ้านไหนผลิตอะไรได้ก็นำไปแลกกับผลิตภัณฑ์ของบ้านอื่น คุณวราฤทธิ์ เกิดแรงบันดาลใจว่าถ้าพวกเรามีชุมชนแบบนี้ในสมัยนี้ก็คงดี จึงอยากทำเว็บไซต์ขึ้นมาให้คนนำของมาแลกกัน จนมาเจอเพื่อนของเพื่อนที่เป็น โปรแกรมเมอร์เข้ามาช่วยทำให้ฝันเป็นจริง ซึ่งใช้เวลาในการนี้ยาวนานกว่า 3 ปี

ต่อไปนี้ คือบทสัมภาษณ์ที่ TCDCCONNECT มีโอกาสสัมภาษณ์ เจ้าของไอเดียเด็ดนี้มาให้ได้ติดตามกัน

๐ สามปีเตรียมอะไรบ้าง

สามปีคือเวลารวมทั้งหมดที่เราใช้ในการจัดตั้งทีมทำงานจนมาลงตัวที่ทีมปัจจุบัน จริงๆ เว็บไซต์แลกของนี้ก็เคยมีมาแล้วนะครับชื่อ “แลกกัน” (www.lakkan.com) ผมลองค้นดูว่าเว็บไทยมีใครทำแบบนี้แล้วหรือเปล่าก็ไปเจอเว็บนี้ที่ถูกโพสต์แนะนำไว้ตามกระทู้ต่างๆ แต่ตอนนั้นเหมือนว่าเขายังทำไม่เสร็จ ผมลองคลิกตามไปก็ไม่เจออะไร เลยลองไปค้นเว็บของเมืองนอกบ้าง ก็ไปเจอเว็บของอังกฤษชื่อ www.swapz.co.uk ผมก็ไปศึกษาว่าเขาทำอะไรยังไงบ้างและนำรูปแบบมาปรับใช้ให้เหมาะกับคนไทย ทำให้คนสนุกกับการแลกของ สามารถดูได้ว่าใครแลกอะไรกับใครไปบ้าง ใครแลกไปแล้วบ้าง ใครไม่แลกบ้าง ใครกำลังรอคำตอบอยู่ ประมาณนี้เพื่อให้เห็นกิจกรรมภายในเว็บจนตอนนี้กลายเป็นชุมชนเล็กๆ ที่ดูแล้วสนุกสนานดีครับ

๐ ตอนนี้เว็บไซต์อยู่ในขั้นที่คุณพอใจหรือยัง

ตอนนี้เปิดมาได้ไม่ถึงปี ผมก็แฮปปี้นะ การใช้งานเราก็ปรับไปเรื่อยๆตามคำแนะนำของคนที่เข้ามาใช้ เช่น เพิ่มระบบคอมเมนท์เข้ามา Add Friend ได้ เพิ่มฟังค์ชั่นการให้คะแนนคน (เช่น แลกของดีไหม ส่งของเร็วหรือเปล่า) บางคนบอกให้เราทำเหมือน Facebook เลยสิ แต่ผมว่ามันนอกประเด็นเกินไปก็ไม่ทำ ส่วนยอดสมาชิกตอนนี้มีอยู่ประมาณ2,000 กว่าคน ยอดคนเข้าเว็บต่อวันก็ประมาณ1,500 คน แลกของกันไปแล้ว800 กว่าราย มูลค่าของที่แลกกันไปแล้วรวมกันประมาณ 900,000 บาท ผมว่าก็เยอะนะครับ สำหรับเว็บที่เพิ่งเปิดมาไม่กี่เดือน

๐ หน้าที่ของคุณในฐานะเจ้าของธุรกิจ

ผมดูแลหมดทุกอย่างยกเว้นการเขียนโปรแกรมต้องดูภาพรวมในเว็บให้ดีเพราะมันยังเป็นของใหม่ คนยังไม่ค่อยเข้าใจว่าจะแลกของกันอย่างไร บางครั้งมีมิจฉาชีพเข้ามาหลอกแลกของ พอคนที่แลกด้วยส่งของมาให้โจรก็ไม่ยอมส่งของแลกกลับ ผมก็ช่วยไปจัดการให้ ซึ่ง จริงๆ แล้วเราจัดการเรื่องแบบนี้แทนไม่ได้ ผมเคยไปแจ้งความแต่ตำรวจบอกเราทำแทนไม่ได้ ต้องให้เจ้าทุกข์มาแจ้งเองสุดท้ายผมช่วยได้แค่เพิ่มระบบคอมเมนท์ และการให้เครดิตคะแนนเข้าไปเอาไว้ให้ผูู้ใช้เว็บนำไปประกอบการพิจารณา

๐ รายได้ของเว็บ

รายได้มาจากพื้นที่โฆษณา(ที่เรียกกันว่าแบนเนอร์)ของสปอนเซอร์เท่านั้นแต่ตอนนี้ก็ยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเพราะยอด 1,500 คนต่อวันยังไม่อยู่ในจำนวนที่จะทำให้สปอนเซอร์สนใจ เป็นช่วงที่กำลังแนะนำให้คนเข้ามาเยอะๆ ถ้ามีคนเข้ามาเยอะ เราก็นำยอดไปขายสปอนเซอร์ได้ ตอนนี้กลุ่มผู้ใช้ของผมยังแคบมาก แต่ก็ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มผู้หญิงถึง 80 %

๐ ประชาสัมพันธ์เว็บอย่างไร

แรกๆผมก็นำไปโพสต์ไว้ตามกระทู้ต่างๆหรือบาร์เทอร์ (แลกเปลี่ยนพื้นที่ประชาสัมพันธ์) กับแฟต เรดิโอ ก็มีคนเข้ามาดูเว็บเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง แต่พอไปลงหนังสื CLEO กับ SEVENTEEN โอ้โห ยอดคนเข้าเว็บเยอะขึ้นมาก เห็นได้ชัดเลยว่ากลุ่มที่เหมาะกับเว็บลักษณะนี้จะเป็นผู้หญิง ของในหมวดเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของสวยๆ งามๆ ของผู้หญิงจะมีเยอะมาก ผมจึงมั่นใจว่าผู้หญิงน่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก แต่เราก็ไม่ได้ปิดกั้นผู้ชายนะครับ

๐ หมวดที่คุณภูมิใจนำเสนอ

ผมภูมิใจหมวดทักษะมาก เราสามารถแลกทักษะกันได้ สมมติว่าคุณเก่งภาษาอังกฤษ สามารถสอนหรือแปลได้ ก็ไปโพสต์เอาไว้ว่าเราเก่งด้านนี้ และกำลังอยากได้อะไร ถ้ามีคนเข้ามาแล้วอยากได้ความสามารถคุณ อาจขอให้คุณมาสอนภาษาอังกฤษหน่อยแล้วเขาจะให้ทีวีเครื่องหนึ่งนะ ตอนนี้ก็มีแลกทักษะกันไปบ้างแล้วมีคนหนึ่งสอนตีกลองอีกคนสอนภาษาญี่ปุ่น เขาก็สลับกันสอน อีกคู่หนึ่งสอนภาษาอังกฤษแลกกับอีกคนสอนวาดรูป ก็แลกทักษะกันตรงๆ เลย

๐ ในฐานะคนทำธุรกิจ เว็บนี้ตอบโจทย์อะไรบ้าง

ผมมองตัวเองเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง แต่เลือกทำธุรกิจที่ผมมีความสุขกับมัน ถ้าในเรื่องของรายได้ ตอนนี้เว็บยังไม่ทำเงินให้ผมเลย แต่ผมมีความสุขมากที่เห็นคนเข้ามาใช้เว็บแล้วชอบ สำหรับผมมันมีค่ามากกว่าเงินเป็นพันเป็นหมื่น เว็บนี้มีคนเข้ามาเล่นทุกวัน เรามีสถิติการใช้เว็บ ซึ่งจะบอกเวลาเฉลี่ยของการใช้เวลาบนเว็บอยู่ ตอนนี้เว็บยอดฮิตอันดับหนึ่งมีคนเข้าใช้นานสูงสุด 10 นาที ซึ่งโดยทั่วไปคนจะใช้เวลาเฉลี่ยกับเว็บหนึ่งๆ คราวละไม่เกิน 15 นาที แต่ที่เว็บผมนี่27 นาทีครับ ในระยะยาว ผมก็มองเรื่องรายได้ด้วย แต่ตอนนี้เราอยู่ในช่วงโปรโมท ต้องทำให้คนเข้ามาใช้เว็บเราเยอะๆ วันหนึ่งถ้ามียอดผูู้ใช้ถึงระดับที่ต้องการ ผมก็จะตั้งทีมขายขึ้นมา ให้ไปขายสปอนเซอร์ นั่นคือขั้นต่อไป

๐ คุณมองว่าธุรกิจออนไลน์ปัจจุบันมีโอกาสดีกว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือไม่ อย่างไรผมว่าก็แล้วแต่กรณีนะครับ อย่างตัวผมมีเงินจำกัดแค่หนึ่งก้อน อยากทำธุรกิจในช่วงเวลาว่าง ที่เราสามารถเปิดร้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องมีคนมาดูแลตลอด มันก็มาลงตัวที่ธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตนี่แหละ เพราะผมสามารถเข้ามาดูร้านตอนไหนก็ได้ ถ้าเราเปิดร้านในห้าง ก็ต้องกำหนดเวลาเปิด-ปิด แต่บนเว็บไซต์คนเข้ามาได้ตลอด 24 ชั่วโมง

๐ ตัวอย่างการแลกของอะไร ที่ทำให้แปลกใจสุดๆ

ผมแปลกใจเสมอเมื่อเห็นการแลกของของผู้หญิง (หัวเราะ) ของที่เขานำมาแลกกันต่อคนมันเยอะจริงๆ ผู้หญิงมีสมบัติเยอะมากจนน่าตกใจ แต่ที่ทึ่งจริงๆก็คงเป็นเรื่องทักษะ ที่มีคนอินกับความคิดของเราว่ามันเอามาแลกกันได้จริงๆ ตอนแรกที่ทำเราก็ไม่แน่ใจว่าจะเวิร์คในเมืองไทย เพราะผมก็ได้ไอเดียมาจากเว็บ swapz.co.uk ของอังกฤษ แต่ปรากฏว่ามันก็เวิร์คในที่สุด

****เจาะประเด็นเด่นกับ Coolswop****- เว็บมาสเตอร์แบบไหนที่ลูกค้า “ถูกใจ” จากประสบการณ์ที่คุณวราฤทธิ์เคยเปลี่ยนเว็บมาสเตอร์ถึง 4 เจ้า เขาให้เหตุผลว่า “เจ้าแรก ดื้อ คือเราคิดแบบหนึ่งไป เขาก็ว่าอีกแบบดีกว่า เจ้าที่ 2 ส่งงานช้า ไม่ตรงเวลา เจ้าที่ 3 แพงเจ้าที่ 4 เขาคิดว่าเว็บเราไม่เวิร์ค คือถ้าเราจะทำอะไรก็ตาม เราต้องหาผู้ร่วมงานที่คิดและเชื่อแบบเดียวกับเรา เจ้าสุดท้ายที่เลือก คือคุยกันแล้วเข้าใจ เขามีความสามารถ วางระบบเก่ง เขาช่วยตบไอเดียที่ฟุ้งซ่านให้เป็นจริงได้”

- ธุรกิจทางอินเตอร์เน็ต (ที่ไม่ใช่เว็บขายของ) อยู่ได้จากสปอนเซอร์ สปอนเซอร์จะสนใจลงโฆษณาในเว็บก็ต่อเมื่อมียอดผู้เข้าเว็บสูงถึงหลักหมื่น แต่บางครั้งแม้อยู่ในหลักพัน แต่ถ้าเว็บนั้นมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นที่รู้จักสปอนเซอร์ก็ย่อมสนใจ

- การสืบค้นธุรกิจในลักษณะเดียวกัน ไม่ใช่เพื่อลอกเลียน แต่เพื่อศึกษารูปแบบแล้วสร้างความแตกต่างเฉพาะตัวฉีกออกไป

- ปรับฟังก์ชั่นตามผู้ใช้งาน ไอเดียเด็ดๆของเจ้าของธุรกิจเป็นการเริ่มต้นที่สำคัญ แต่ไอเดียจะยิ่งงอกเงยเป็นรูปธรรมขึ้นมาก็ต่อเมื่อได้ฟังเสียงจากผู้ใช้จริง

- สร้างชุมชนที่สนใจเรื่องเดียวกันภายในเว็บ เพื่อสร้างความรู้สึกผูกพันให้กับผู้ใช้และเกิดการบอกต่อ ทำให้เว็บเติบโตทั้งในด้านการใช้งานบนเว็บและยอดของผู้ใช้ ซึ่งจะมีผลต่อการหาสปอนเซอร์เว็บด้วย

ขอบคุณข้อมูล จาก www.TCDCCONNECT.com

huahinhub thanks