5.27.2552

| สร้างสรรค์วัฒนธรรม และสังคมเมือง ๖๖ (พื้นที่ปลอดบุหรี่ 100%)


รมว.สาธารณสุข มุ่งบังคับใช้ กม.เพื่อทำพื้นที่ปลอดบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์แท้จริง ให้ได้ภายในปี 2553 โดยจะให้ครอบคลุมสถานที่ทำงาน โรงพยาบาล วัดทุกแห่ง วิตก หญิงตั้งครรภ์ที่ครอบครัวยากจนสูบบุหรี่มากขึ้น 50%...
hhh
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าววันนี้ 27 พ.ค.) ถึงการบังคับใช้กฎหมายการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ที่มีจำนวน กว่า 52 ล้านคน ที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ปลอดบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ จากการติดตามประเมินผล ยังมีปัญหาในเรื่องไม่ติดป้ายสัญลักษณ์การห้ามสูบบุหรี่ และยังมีการสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ
hhh
ขณะนี้ กระทรวงฯ อยู่ในระหว่างยกร่างกฎหมาย เพื่อทำพื้นที่ปลอดบุหรี่ 100% แท้จริง ให้ได้ภายในปี 2553 โดยจะให้ครอบคลุมสถานที่ทำงาน โรงพยาบาล วัดทุกแห่ง โดยองค์การอนามัยโลกได้มอบทุนสนับสนุนดำเนินการประมาณ 20 ล้านบาทรมว.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า ในปี 2552 กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ประจำโดยเฉพาะเพศชายให้ได้ร้อยละ 1 ต่อปี ส่วนเพศหญิงจะควบคุมไม่ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น
hhhh
ขณะนี้ แนวโน้มอัตราการสูบบุหรี่เป็นประจำของคนไทยลดลง แต่เป็นการลดลงในกลุ่มที่สูบบุหรี่ชนิดซอง แต่ในกลุ่มผู้สูบยาเส้นมีแนวโน้มมากขึ้น ผลสำรวจล่าสุดพบว่า คนไทยสูบบุหรี่ชนิดซอง 5.1 ล้านคน ส่วนยาเส้นมีคนสูบ 5.7 ล้านคน กระทรวงสาธารณสุข เตรียมนำเรื่องการเก็บภาษีบุหรี่ยาเส้น เข้าหารือคณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติ เพราะปัจจุบันเก็บภาษีต่ำมากไม่ถึงร้อยละ 0.01 ขณะที่บุหรี่ชนิดซองเก็บ 85%
hhh
ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก รายงานว่า ขณะนี้ มีคนทั่วโลกเสียชีวิตจากบุหรี่ซึ่งมีกว่า 25 โรค ปีละประมาณ 3.5 ล้านราย ส่วนไทย บุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการตายอันดับ 2 รองจากโรคเอดส์ ปีละกว่า 40,000 คน โดยเฉพาะมะเร็งปอดมีผู้ป่วยใหม่ปีละเกือบ 20,000 คน ที่น่าห่วงพบว่าผู้หญิงในภาคอีสานมีแนวโน้มเริ่มต้นสูบบุหรี่เมื่ออายุน้อย ลง ขณะที่ภาคอื่นๆเริ่มต้นสูบเมื่ออายุมากขึ้น
hhh
โดยผู้ชายอายุเริ่มสูบเฉลี่ยประมาณ 18 ปี ส่วนผู้หญิงอายุเฉลี่ยประมาณ 22 ปี ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า ที่น่าวิตกไปกว่านั้น คือ พบการสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์สูงขึ้น ในครอบครัวที่ยากจนและการศึกษาต่ำ ทำให้ทารกมีโอกาสได้รับควันบุหรี่ค่อนข้างสูง โดยมีมารดากว่าร้อยละ 50 ยังสูบบุหรี่ขณะให้นมบุตร ส่วนอัตราการเลิกบุหรี่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.95 ในปี 2534 เป็นร้อยละ 18.29 ในปี 2550 แต่ก็มีผู้สูบบุหรี่อีกประมาณ 6 ล้านคน ไม่เคยคิดเลิกบุหรี่และไม่พยายามเลิกบุหรี่ ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุ 15-18 ปี กลุ่มที่ไม่เรียนหนังสือ และกลุ่มที่ครอบครัวยากจน
hhhh
เอาล่ะสิ..เอาซะทีสิ..เลิกบุหรี่กันเดี๋ยวนี้เลยดีมั๊ย..จะไม่มีที่ให้สูบแล้วนะพี่น้อง...สวัสดี
hhhh
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thairath.co.th
huahinhub Thnaks
hhhh

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น