วิกฤติ ๐๐ ผู้อาศัยในเมืองหลวงของไทย ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่าๆ กับ ชาวนิวยอร์ก แต่มากกว่าชาวลอนดอน
ทั้งนี้ เป็นผลการศึกษาที่สนับสนุนโดยองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยแพร่วันนี้ (22) รายงานดังกล่าว ชื่อ “กรุงเทพฯรายงานประเมินผลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2009” ไม่เพียงเน้นย้ำพฤติกรรมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเข้มข้นของกรุงเทพฯ แต่ยังชี้ชัดถึงภัยคุกคามจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น เนื่องจากภาวะโลกร้อนต่อกรุงเทพฯด้วย ประชากรในกรุงเทพฯผลิตสารคาร์บอนไดออกไซด์ 7.1 ตันต่อปี/ต่อคน ในปี 2007 ซึ่งเป็นระดับเดียวกันที่ชาวนิวยอร์กผลิตในปีเดียวกัน
hhh
ขณะที่ชาวลอนดอนผลิต 5.9 ตัน รายงานที่ทำโดยกรุงเทพมหานคร ร่วมกับมูลนิธิใบไม้เขียวที่ฐานอยู่ในกรุงเทพฯ และได้รับการสนับสนุนจากโครงการสิงแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นอีพี) ระบุ ทั้งนี้ น่าแปลกที่รายงานชิ้นนี้ ซึ่งจัดโดยหน่วยงานของไทยเอง กลับถูกเผยแพร่ที่สิงคโปร์
hhhh
รายงานยังระบุว่า การขนส่ง และการผลิตไฟฟ้าเป็นแหล่งสำคัญของการผลิตก๊าซเรือนกระจกในกรุงเทพฯ รายงานชิ้นนี้คำนวณจากจำนวนประชากรของกรุงเทพฯอย่างเป็นทางการ 6 ล้านคน แต่ตัวเลขจริงเชื่อว่ามีมากกว่านี้เป็น 2 เท่า โดยจำนวนมากในจำนวนนี้เป็นคนงานเฉพาะกาลจากชนบท กรุงเทพฯซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำตั้งอยู่ใกล้ปากแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นเหยื่อจากน้ำท่วมอยู่แล้ว ในอนาคตคาดว่าจะมีวันที่อุณหภูมิสูงมากกว่า 35 องศา (95 ฟาเรนไฮต์) เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยอดคนไข้มาลาเรียและโรคอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย
hhh
รายงานระบุ กรุมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ไว้ว่า อุณหภูมิสูงสุดในกรุงเทพฯในวันนี้ (22) คือ ที่ 38 องศาเซลเซียส “ผลกระทบจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และผลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกต่อกรุงเทพฯมีแน้วโน้มว่าค่อนข้างจะร้ายแรง” รายงานชี้
hhh
นอกจากนี้ รายงานยังเผยว่า เพียงมากกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่ในกรุงเทพฯจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หากปริมาณระดับน้ำทะเลปานกลางเพิ่มสูงขึ้น 50 เซนติเมตร ขณะที่พื้นที่ 72 เปอร์เซ็นต์ จะได้รับผลกระทบหากระดับน้ำทะเลปานกลางเพิ่มขึ้นสูง 1 เมตร นอกจากนี้ รายงานยังเสริมว่า การทรุดตัวของแผ่นดินที่เกิดจากการสูบน้ำบาดาลมากเกินไปเป็นสาเหตุใหญ่อยู่แล้ว รวมอยู่ในปัญหาการปนเปื้อนของน้ำ โดยคาดว่าปัญหาทั้งสองนี้จะเลวร้ายยิ่งขึ้น เมื่อประชากรของกรุงเทพฯเพิ่มมากขึ้น
hhh
ทังนี้ กรุงเทพมหานคร ได้รณรงค์โครงการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 15 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2012 ด้วยการขยายระบบขนส่งมวลชน สนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียน ขยายสวนสาธารณะและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์
huahinhub Thanks
ggg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น