5.07.2552

| กระตุ้นความคิด ด้วยไอเดีย ๒๙ (พลิกคัมภีร์รื้อแผนท่องเที่ยวสุดCool)




เก็บไอเดียฝ่า วิกฤตท่องเที่ยวซบมาฝากพี่น้องชาวเมืองหัวหิน กันอีกครั้ง ครั้งนี้ huahinhub เต็มใจนเสนอ ไอเดียสุดเจ๋ง ของคนเก่งจริง อย่าง วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กับคมความคิด พลิกคัมภีร์รื้อแผนทำตลาดรับมือทัวร์นอกหนี เป็นอย่างไร ตามมา.....

รายงานโดย :สุรนันทน์:
วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สุรนันทน์ : ปัญหาเยอะแยะมากมาย อาจารย์คิดว่าแต่ละปัญหาที่เกิดขึ้นทางการท่องเที่ยวมีแนวทางที่จะไปจัดการอย่างไร
วีระศักดิ์ : ผมเชื่อว่าการบริหารจัดการของเรา ฐานทางทรัพยากรท่องเที่ยวของเรายอดเยี่ยม ลมพัดแรงแค่ไหนภูเขาก็ยังไม่โค่นหรอกครับ เพียงแต่ทำให้บรรดาสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ต้นไม้เล็กน้อยถูกถอนไปบ้าง สาระสำคัญคือการสื่อสาร เพื่อทำให้คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนั้นรู้ว่าการท่องเที่ยวไปได้แน่นอน ประเทศไทยอย่างไรใครๆ เขาก็อยากมาเที่ยว คนไทยน่ารักแบบนี้ไม่มีที่ไหนเทียบกับเราได้มากนักหรอก เพราะฉะนั้นตั้งหลักตั้งสติไว้

ทั้งนี้ ต้องมาแยกแยะว่าปัญหาครั้งนี้ไปกระทบหมวดไหน กลุ่มไหน เมื่อไหร่ จะแยกออกได้ว่าถ้าช่วงนี้คงไม่ได้คาดหวังว่าจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะแยะมากมาย เพราะว่าในปีที่เป็นปกติของเราที่เรียกว่าช่วงโลว์ซีซัน ก็พบว่าสระอิ 4 ตัวมาเที่ยวเราในช่วงนี้ คือ อินโดนีเซีย อินเดีย อิหร่าน และอิสราเอล นี่คือกลุ่มที่จะมา แน่นอนปกติก็จะมีจีน เกาหลี ญี่ปุ่นด้วย ...โอ้ว!!

แต่ในภาวการณ์แบบนี้ไม่มีใครไปรื้อฟื้นความเชื่อมั่นของเขาแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะฉะนั้นเรามาทำในเรื่องอื่นที่ไม่ใช่แค่การตลาดดีไหม ทำการตลาดในกลุ่มที่มีเกณฑ์จะออกเดินทางมา ทำให้เขามั่นใจว่าจะมาได้ กลุ่มฝรั่งยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะเดินทาง กลุ่มฝรั่งเขาจะเดินทางประมาณช่วงปลายปี
hhh
hhh
สุรนันทน์ : วันนี้เราบอกว่าเราดีทั้งเรื่องธรรมชาติ ทั้งเรื่องโบราณสถาน อะไรก็ตามมีครบ แต่กำลังใจคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวดีไหม
วีระศักดิ์ : ไม่ดี เพราะว่าคลื่นระลอกแล้วระลอกเล่าเข้ามา ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กๆ สายป่านไม่พอ สายขาดไหลไปตามน้ำเป็นจำนวนพอสมควร ถ้าขาดเฉพาะตัวกิจการไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ค้างอยู่ก็คือลูกจ้าง
hhhh
hhh
สุรนันทน์ : วันนี้อาจารย์อยากจะพูดอะไรกับเขา เวลาเขามานั่งกันเจ็ดแปดสมาคม บริษัทห้างร้านที่ทำเรื่องทัวร์
วีระศักดิ์ : อย่างแรกต้องให้รู้ก่อนว่าหูเปิดฟังแล้วต้องเปิดใจด้วย เพราะว่าต้องฟังจากเขาแทนที่จะไปนั่งอบรม อดทนฟังให้เรียบร้อย เพราะอาจจะมีปัญหาเก่าปัญหาดั้งเดิม บางคนอาจจะมีอารมณ์อยู่บ้างเราต้องเข้าใจ พอรับมาเสร็จแล้วสรุปให้ฟังง่ายๆ ว่ามี 3 ปัญหาที่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแก้ด้วยตัวเองไม่ได้ คือ การเมือง การเงิน การบิน การเมืองไม่ต้องอธิบายแล้ว
hhh
การเงินเป็นสิ่งที่พอบอกว่าจะมีแหล่งเงินกู้ให้ ท่อน้ำเกลือเล็กไปหน่อยหรือไม่ก็ท่อน้ำเกลือสั้นไปหน่อย มีมติคณะรัฐมนตรี ท่านชุมพล ศิลปอาชา เอาเข้าที่ประชุมได้ 5,000 ล้านบาท ก็ยังดี ได้รายละประมาณ 5 ล้านบาท ก็เอาไปจ้างลูกจ้างได้ เมื่อก่อนถ้าไม่กระทบเรื่องของสนามบินสุวรรณภูมิไม่ต้องมาพูดกัน ตอนนี้ให้หมดแล้ว
hhh
สามก็คือเรื่องการบิน การบินเมื่อเราบอกว่าลดค่าแลนดิงฟี ลดค่าอะไรต่างๆ ไปจนถึงสิ้นปี ทำให้สายการบินจำนวนหนึ่งมองว่าจะจอดเครื่องบินตัวเองทิ้งไว้ที่บ้านทำไม อย่างไรก็ต้องบินทำธุรกิจ แล้วที่นี่เป็นฮับของการบินทั่วโลก เพราะฉะนั้น 3 อย่างผมคิดว่าพอทำแล้วดีขึ้น
hhh
hhh
สุรนันทน์ : การท่องเที่ยวต้องบริหารงานภายใต้ภาวะวิกฤตตลอด
วีระศักดิ์ : วิกฤตตลอด คลื่นลูกแล้วลูกเล่าแล้วแต่ละคลื่นหน้าตาไม่เหมือนกันด้วย วิธีกระแทกก็ไม่เหมือนกัน ตอนนี้สถานทูตในเมืองไทยเริ่มประเมินผลกระทบเฉพาะหน้าเบาบางลง แต่รู้ว่าเขาเริ่มวิเคราะห์ไปไกลขึ้นๆ ยกต่อไปจะมาอีกหรือเปล่า แต่เขาก็เชื่อแล้วว่าพอความรุนแรงประเภทดุเดือดใช้อาวุธเข้าห้ำหั่นคงจะไม่เกิดหรอก แต่การปิดสนามบินที่เกิดขึ้นจนกระทั่งเดี๋ยวนี้พอปิดอนุสาวรีย์ปั๊บเราเช็กเว็บไซต์ 200 เว็บไซต์ 5 แสนกว่าความเห็นที่ใส่เข้าไปในเว็บไซต์ที่มาจากทั่วโลก คำถามหลักและคำถามใหญ่ คือ ปิดสนามบินไหม นั่นเป็นภาพจำ
hhh
เพราะฉะนั้นเราต้องแก้ภาพจำพวกนี้ ผมก็ได้ร่วมกับสมาคมนักบินไทย คือปีหน้าเราจะเป็นเจ้าภาพการประชุมนักบินโลก นักบินทั่วโลกจะบินมาประชุมที่เมืองไทย แล้วปีนี้เรากำลังจะร่วมกับสนามบินสุวรรณภูมิในการทำให้มีกิจกรรมใหม่ๆ ทั้งในเรื่องของท่องเที่ยวอะไรต่างๆ เข้าไปอยู่ในสนามบินให้สนามบินไม่ใช่เป็นแค่สนามบิน ให้เป็นลานกิจกรรมไปด้วยเลย นักท่องเที่ยวเดินออกจากเครื่องบินมาจะได้เกิดความสนุกสนานกับเรา..อืมม์ !! ซึ่งสนามบินสุวรรณภูมิกำลังจะเข้าประกวดสนามบินที่ดีที่สุด 1 ใน 10 ของโลก ถ้าได้อันนั้นจะเป็นผลที่จะช่วยลบภาพที่ไม่ดีได้
hhh
hhh
สุรนันทน์ : เรื่องอุตสาหกรรมการบินขึ้นๆ ลงๆ จริงๆ ไม่ใช่ความผิดเรา ตั้งแต่น้ำมันขึ้นราคากลางปีที่แล้ว เราก็กระทบไปแล้ว มองไปยาวๆ อาจารย์มองว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะแปรเปลี่ยนไปไหม เพราะว่าวันนี้มีวิกฤตหลายรอบ เรื่องน้ำมัน เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องไข้หวัดเม็กซิโก ตอนนี้ซึ่งเป็นวิกฤตของโลกาภิวัตน์ โลกมีการเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง
วีระศักดิ์ : ต้องเปลี่ยนเยอะเลยครับ หนึ่งความสนใจเรื่องยั่งยืนจะสูงขึ้น คือต่อไปนี้เราจะต้องพูดถึงว่า ถ้าไปแล้วไม่รู้สึกว่าทำลายสิ่งแวดล้อมของโลกในการไปเที่ยวครั้งนี้ จิตสำนึกตรงนี้จะมากขึ้น ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวเขาเริ่มเรียนรู้ คนที่เดินทางมากคือคนที่ได้รับการศึกษามาก การเดินทางเป็นการศึกษา
hhh
ส่วนที่สอง คือ ไหนๆ ก็ไปเที่ยวแล้วคุณได้ไปช่วยเหลือชุมชนเป็นอาสาสมัครบางประการ เป็นสาธารณประโยชน์ เวลานี้เราถึงได้ชักชวนการประชุมสมาคมตระกูลแซ่ของคนจีนในประเทศไทย พวกนี้เขาทำสาธารณประโยชน์อยู่แล้ว ผมก็จัดประชุม 64 ตระกูลแซ่ ประชุมเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้จะขยายต่อ เอาคนจีนในอาเซียน 10 ชาติ มาประชุมร่วมกัน เวลามาประชุมไม่ต้องไปตั้งวาระให้เขาเลย เขาจะคุยแต่เรื่องสาธารณประโยชน์อยู่แล้ว แล้วต่อไปเราจะไปเชิญจีนมาประชุม มาอย่างนี้รายได้เราได้ ...เอากับท่านสิ !!
hhh
hhh
สุรนันทน์ : เพราะฉะนั้นจะเหมือนกับ เรื่องเดิมแต่เป็นมิติใหม่ๆ เห็นอาจารย์นำคู่มือมาเต็มเลย
วีระศักดิ์ : เป็นคู่มือนำเที่ยวครับ สมัยก่อนคนทำเรื่องท่องเที่ยวมักจะบอกว่าไปไหน ไปชัยภูมิ ไปทำอะไร ไปดูดอกกระเจียวบานก็แห่กันไป ไปถึงก็รถติด ไปดูดอกกระเจียวหามุมที่ไม่มีคนไม่ได้เลย แย่งกันกิน แย่งกันพัก แล้วก็แย่งกันกลับ อย่างนั้นก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ แต่ถ้าเรามาท่องเที่ยว By Activity ไม่ใช่ By Destination เอากิจกรรมเป็นตัวหลัก แทนที่จะถามว่าปิดเทอมนี้พาลูกไปไหน เปลี่ยนใหม่ถามว่า ปิดเทอมนี้พาลูกไปทำอะไร...ว้าวๆๆๆ !!
hhh
โดยคู่มือเหล่านี้ก็จะแยกให้ดูว่า แบบโหดมันฮา เพราะลูกโตแล้วมีอะไรทำบ้างในประเทศไทย คนรสนิยมเดียวกันกระจายกันไปทำกิจกรรมที่ตนเองชอบ คู่มือท่องเที่ยวแบบนี้จะค่อยๆ โตขึ้นๆ เพราะเป็นของที่เป็นปัจจุบันแล้ว จะหวังให้เธอต้องมาเที่ยวจังหวัดฉัน จังหวัดฉันมี เดี๋ยวนี้จังหวัดอื่นเขาก็มีของดีทั้งนั้น
hhh
hhh
สุรนันทน์ : คนไทยด้วยกันเขาบอกไทยเที่ยวไทยจะได้ผลแค่ไหน
วีระศักดิ์ : ยอดเยี่ยม 4 แสนล้านบาท ปีนี้ถึงแน่ๆ ปีที่แล้วขนาดน้ำมันแพงๆ แล้วก็ทะเลาะกันด้วย ก็เที่ยว 3.85 แสนล้านบาท เพราะฉะนั้นปีนี้คนไทยยิ่งรู้แหล่งท่องเที่ยวมากขึ้นๆ เราทำเรื่องเที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก เขารู้สึกเลยว่าเขามาเที่ยวไม่ใช่แค่ความสุขของเขา แต่เป็นความสุขของชุมชน เป็นเรื่องเศรษฐกิจของชาติหมุนเวียนต่อไปด้วย ก็ช่วยชาติด้วย
hhh
ตอนนี้เราก็ออกแคมเปญต่อไปชื่อว่า “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” 12 เดือน มีให้รู้ว่าเที่ยวได้ทั้ง 12 เดือน 7 ดาว ก็คือว่าแหล่งท่องเที่ยวที่ท่านไปแล้ว ไปนอนดูดาว ดูจันทร์ ดูแสงสว่างยามค่ำคืน งดงามเหลือเกินมีหลายที่ในประเทศไทย 9 ตะวัน ก็เหมือนกัน พระอาทิตย์จะขึ้นที่ไหนตรงไหนสวยๆ บางครั้งพระอาทิตย์ขึ้นเที่ยงแล้วจึงจะทำให้ตรงนั้นสวยงาม เช่น ถ้ำมรกต แสงจะสะท้อนใต้ทะเลขึ้นไปปรากฏอีกทีในถ้ำ ก็ทำให้คนรู้สึกว่าน่าไปเที่ยว
hhh
hhh
และนี้คือคมความคิด และไอเดีย ของอดีตนักการเมืองคนเก่ง แห่งพรรคชาติไทย ที่ปัจจุบันได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อนำพาการท่องเที่ยวของไทย ไปอย่างมีทิศทางต่อไป ต้องขอชื่นชมกับความคิดของท่า มา ณ ที่นี้ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับ พี่น้องชาวหัวหิน และเมืองหัวหิน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว อันดับต้นๆ ของประเทศไทย...สวัสดี
hhh
ขอบคุณข้อมูลจากรายการสรุนันท์วันนี้
huahinhub Thanks
hhh

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น