5.28.2552

| กระตุ้นความคิด ด้วยไอเดีย ๖๘ (เมืองไทยในสายตาชาวโลกอีก)



เมืองไทยในสายตาชาวโลก
ในขวบปี 2551 ที่ผ่านมา Future Brand บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกด้านแบรนดิ้งได้จัดทำ Country Brand Index ประจำปี โดยจัดอันดับประเทศต่างๆ (10 อันดับ) ที่มีความโดดเด่นในแต่ละด้านเป็นจำนวนทั้งสิ้น 30 สาขาด้วยกัน
hhhh
อันดับความโดดเด่นดังกล่าวสามารถใช้เป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน (SWOT Analysis) ของประเทศต่างๆ ได้ นอกจากนั้นยังสะท้อนให้เห็นถึงทรัพย์สินที่ประเทศต่างๆ มีอยู่ทั้งในแง่ของชื่อเสียง การรับรู้ และประสบการณ์ของประเทศนั้นๆ ด้วย สำหรับประเทศไทยเราก็มีชื่อติดอยู่ในอันดับต้นๆ หลายสาขาด้วยกัน ได้แก่
hhhh
1. เอกลักษณ์แท้จริงของประเทศ (Authenticity) ได้อันดับที่ 3
รองจากนิวซีแลนด์และญี่ปุ่น (โดยขึ้นมาจากอันดับที่ 5 ในปี 2550) การจัดอันดับวัดจากการแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงในเชิงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ
hhhh
2. ชีวิตแสงสียามค่ำคืน (Nightlife) ได้อันดับที่ 4 รองจากญี่ปุ่น บราซิล และสเปน (อันดับเดียวกับปี 2550) การจัดอันดับวัดจากชื่อเสียงของคลับและแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน
hhh
3. ช็อปปิ้ง (Shopping) ได้อันดับที่ 4 รองจากสหรัฐอเมริกา สหพันธรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสิงคโปร์ (โดยขึ้นมาจากอันดับที่ 9 ในปี 2550) การจัดอันดับวัดจากจำนวนร้านค้า ความสะดวกในการจับจ่ายและตัวเลือกที่หลากหลาย
hhh
4. มนุษยสัมพันธ์ของคนท้องถิ่น (Friendly locals) ได้อันดับที่ 3 รองจากนิวซีแลนด์ และไอร์แลนด์ (โดยขึ้นมาจากอันดับที่ 5 ในปี 2550) การจัดอันดับวัดจากมนุษยสัมพันธ์ของประชากรในประเทศ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
hhhh
5. ความคุ้มค่าคุ้มราคา (Value for Money) ได้อันดับที่ 1 เช่นเดียวกับในปี 2550 การจัดอันดับวัดจากความคุ้มค่าของสินค้าและบริการที่ได้รับเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป
hhhh
6. การท่องเที่ยวต่อหลังจากเดินทางทำธุรกิจ (Extend a business trip) ได้อันดับที่ 10 รองจากออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สกอตแลนด์ ญี่ปุ่น ไอร์แลนด์ อเมริกา สวีเดน แคนาดา และอิตาลี ตกจากอันดับที่ 5 ในปี 2550
hhh
7. ความน่าเที่ยว/น่ากลับมาเยือนอีกครั้ง (Desire to visit/visit again) ได้อันดับที่ 10 รองจากนิวซีแลนด์ อิตาลี ออสเตรเลีย อเมริกา มัลดีฟส์ ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่นและแคนาดา (เป็นการจัดอันดับครั้งแรกในสาขานี้)
hhh
ยังมีอีกในหลายหัวข้อที่ดูเหมือนว่าประเทศไทยน่าจะติดอันดับหนึ่งในสิบแต่กลับไม่ได้รับการคัดเลือก อาทิ ความงามตามธรรมชาติ (Natural Beauty) อาหารมื้อค่ำเลิศรส (Fine Dining) เป็นต้น จุดนี้ทำให้เราทราบว่าสถานะที่เรามองตัวเองกับที่คนนอกมองเรานั้นไม่ได้ตรงกันเสมอไป ซึ่งเมื่อเราเข้าใจสายตาชาวโลก ก็น่าจะมองเห็นช่องทางเสริมจุดเด่นและปรับปรุงจุดด้อยได้ เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐในการกำหนดทิศทางการพัฒนา การสร้างภาพลักษณ์ วางตำแหน่ง และกำหนดกลยุทธ์การท่องเที่ยวของประเทศในอนาคต ส่วนในภาคเอกชนก็สามารถใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจทางธุรกิจ ทำให้เห็นภาพสะท้อนของสังคมไทยที่กำลังเปลี่ยนไปได้อีกด้วย
hhhh
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ น่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับการตัดสินใจดีดีในหลายๆเรื่อง..หวังว่านะ..สวัสดี
hhhh
ขอบคุณเรื่อง ภาพ และข้อมูลเพิ่มเติม
:
http://www.countrybrandindex.com
hhhh

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น