5.23.2552

| กระตุ้นความคิด ด้วยไอเดีย ๕๖ (นักแปลวรรณกรรมฝรั่งเศส คนดัง)




นักแปลชื่อ อธิชา
อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง
คือนักแปลที่กำลังมาแรงที่สุดคนหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอแปลวรรณกรรมร่วมสมัยจากฝรั่งเศส ไล่มาตั้งแต่ ปาฎิหาริย์รักต่างภพ, เจ็ดวันเพื่อหนึ่งนิรันดร, ทำอย่างไรให้โง่, ต้นไม้แห่งความเป็นไปได้, ฉันเคยรัก,ปั้นศิลปอให้เป็นศิลปิน และแม้แต่หนังสือการ์ตูน ไตรภาคนิโกโปล ของ เอ็นกิ บิลัล ทำงานมาขนาดนี้แล้ว ลองรู้จักเธอกันหน่อยดีไหม?
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

อธิชาทำหน้าที่เป็นล่ามภาษาของหนังสือวรรณกรรมร่วมสมัยจากฝรั่งเศสหลายต่อหลายเล่มให้นักอ่านไทยได้มีโอกาสลองเสพกัน ไล่มาตั้งแต่ ปาฎิหาริย์รักต่างภพ, เจ็ดวันเพื่อหนึ่งนิรันดร, ทำอย่างไรให้โง่, อยากให้ใครสักคนรอฉันอยู่ (ที่ไหนสักแห่ง), ต้นไม้แห่งความเป็นไปได้, ฉันเคยรัก, เพียงเรามีกัน แค่นั้นพอ, ปั้นศิลปอให้เป็นศิลปิน, แรงอาฆาต ไปจนถึงชีวประวัติของจอมลวงโลก คริสตอฟ โรคงคูร์ และแม้แต่หนังสือการ์ตูนสุดล้ำอย่าง ไตรภาคนิโกโปล ของ เอ็นกิ บิลัล ก็เป็นฝีมือของเธออีกเช่นกัน
hhh
หญิงสาวจากจังหวัดระยองคนนี้สำเร็จการศึกษาด้านละครเวทีมาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังเรียนจบเธอก็เหมือนคนร่วมรุ่นที่ต้องใช้เวลาค้นหาตัวเองในโลกแห่งความจริงอยู่พักใหญ่
“การเรียนละครทำให้เรามองคนเป็นคนค่ะ มีความกลม มีมิติในตัวคน เราจะต้องทนไม่ได้ที่จะมองใครด้านเดียว หรือว่ามีใครมองใครในด้านเดียว หรือมองว่ามันไม่มีตรงกลางหรือว่าไม่มีที่มาที่ไปของคน แล้วมันก็มันช่วยกับงานอ่านงานเขียน หรือการดูหนัง เราก็จะมีมุมที่ว่า เฮ้ย! ตัวละครแบนไปหรือเปล่า” เธอพูดคล่องแคล่ว
hhh
เธอลองทำงานละครเวที ละครทีวี ทำรายการเพลง ก่อนจะย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศสอยู่เกือบสามปี เมื่อได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมฝรั่งเศสติดตัวกลับมา อธิชาจึงเริ่มงานที่เกี่ยวกับการใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก จนในที่สุดเธอก็มาลองทำงานแปล
hhh
“เราเด็กอักษรฯ ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว ตอนที่กลับมาจากฝรั่งเศสเราก็ภูมิใจมากว่าเราอ่านหนังสือฝรั่งเศสรู้เรื่อง จนมาเจอพี่ยักษ์ (คมสัน นันทจิต) ก็บอกเขาว่า ‘หนูติดหนังสือมาเล่มหนึ่ง ขายดีมากๆ เลยพี่’ เขาก็บอก ‘เฮ้ย แกก็แปลสิ เดี๋ยวพี่จะลองเสนอ บก. เพื่อนพี่ให้’ เราก็ทำเรื่องย่อ แล้วก็แปลตัวอย่างให้พี่ยักษ์ อีกเดือนกว่าๆ ก็มีโทรศัพท์มาจากแพรวสำนักพิมพ์ค่ะ” และนั่นคือที่มาของหนังสือแปลชื่อ ปาฎิหาริย์รักต่างภพ ซึ่งนิยายเรื่องนี้ก็ถูกฮอลลีวู้ดนำมาสร้างเป็นหนังเรื่อง Just Like Heaven นั่นเอง
hhhh
“อาชีพนักแปลดูเหมือนจะเหมาะกับสภาพชีวิตเรานะ” เธอยิ้มกว้าง ”คือเราไม่ชอบออกบ้าน ไม่ชอบตื่นเช้า เราสามารถนอนดึกๆ ได้ แล้วตอนทำงานประจำก็มีความทุกข์ตอนเช้าตลอด รู้สึกว่าชีวิตแย่มาก แต่พอทำหนังสือออกมาแล้วมันมีความภูมิใจ แล้วเงินก็โอเคนะ ถ้าไม่คิดจะซื้อบ้านใหญ่โตกลางเมือง ซื้อรถพร้อมพรั่ง สามารถอยู่ต่างจังหวัดก็อยู่ได้ แล้วก็อาจจะมีเงินเก็บด้วย ถ้าไม่ฟุ่มเฟือยมากเกินไป”
hhhh
หลังจากนั้นเธอก็ขยับขยายไปร่วมงานกับสำนักพิมพ์วงกลมและฟรีฟอร์ม เฉลี่ยแล้วมีงานแปลออกมาปีละ 3-4 เล่ม ผูกขาดการแปลงานของนักเขียนร่วมสมัยอย่าง มาร์ก เลอวี, มาแตง ซาร์จ และ แอนนา กัลวาดา แถมยังมีเวลาไปเขียนคอลัมน์ชื่อ Over See ให้ a day กับเขียนงานให้ Freeform กับ มติชนสุดสัปดาห์ อีกด้วย
hhhh
“เราไม่เคยรองานนะ เราจะเสนอหนังสือเอง แล้วก็นักเขียนที่เราแปลๆ อยู่เขาก็ออกงานเขามาเรื่อยๆ เพราะว่าเขาเป็นพวกเขายังมีชีวิตอยู่” เธอหัวเราะ” เขาก็ต้องทำงานของเขาน่ะ คือถ้าเขาออกงานมา เราก็ตามงานเขาไปได้เรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวอดตาย” เธอเล่าถึงเคล็ดลับในการได้งานแปลสม่ำเสมอ “ทั้งหมดนี้เป็นพวกนักเขียนที่มีชื่อเสียงไงคะ ติดอันดับขายดี ได้รับการยอมรับแล้วทุกคนเลย คือใจเราอยากจะสะสมงานแปลของนักเขียนเบสเซลเลอร์ของฝรั่งเศสให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้ เหตุผลง่ายๆ คือเวลาไปชุมนุมกับชาวฝรั่งเศส เขาจะได้รู้ว่าฉันเป็นใคร ทำอะไร ไม่ต้องมาเล่านั่งเล่าให้ฟังมากมาย” เธอหัวเราะสนุก
hhhh
และตอนนี้ชีวิตของเธอก็มาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เพราะกว่าที่ happening เล่มนี้จะวางแจก อธิชาคงย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสกับคู่ชีวิตของเธอแล้ว แต่สำหรับเรื่องการค้นหาตัวตน เธอก็มีคำตอบอันมั่นคงให้กับตัวเองเรียบร้อยแล้ว ถึงวันนี้เธอรับงานแปลสม่ำเสมอ แล้วยังเริ่มก่อตั้งสำนักพิมพ์ของตัวเองชื่อสำนักพิมพ์กำมะหยี่อีกด้วย
hhhh
“กำมะหยี่กะจะออกหนังสือหลายเล่มนะคะ เรานั่งทบทวนกันว่าเราจะทำพ็อคเก็ตบุ๊ก เป็นหนังสือที่มันไม่ได้แพงมาก ข้างในไม่ต้องใช้กระดาษดีเลิศ ไม่ต้องกระดาษต่างประเทศก็ได้ กระดาษธรรมดาก็ได้ แต่ว่าเนื้อหาดี แล้วมันก็มีงานที่เรามั่นใจว่ามันมีคนอยากอ่านจริงๆ แต่ว่ามันไม่มีขายแล้วจริงๆ มันหมดตลาดแล้ว เราก็อยากทำออกมาอีก แล้วก็เมืองไทยนี่หนังสือดีๆ นี่มันหายไปหมด คือมันหายไปเลย อย่างเมืองนอก ถ้าทำปกแข็งเล่มสวยงามแล้วดี เขาจะทำปกอ่อนใช่ไหมคะ แล้วก็จะตีตลาดไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะมีครบรอบคนเขียนหรืออะไรสักอย่าง เราคิดว่าที่เมืองไทยยังขาดแบบนี้อยู่ทำให้หนังสือดีๆ มันขาด เพราะว่าเรามัวแต่ไปคิดว่าคนไทยจะอ่านแต่ความสวยงามหรืออะไรสักอย่าง” เธอกล่าวถึงสำนักพิมพ์ที่ตั้งใจจะทำ
hhh
เมื่อคุยกันถึงเรื่องอนาคต อธิชาบอกเล่าแผนการต่างๆ ด้วยประกายตาสดใส จนมาถึงบทสรุปเธอก็กล่าวกับเราไว้อย่างนี้
hhhh
“เราเริ่มเห็นว่าตัวเองมีศักยภาพที่จะทำหนังสือไง เราก็เลือกได้แล้วเราก็ทำได้ ดังนั้นทำไมฉันจะอยู่เพื่อเขียนไม่ได้ เพราะมันมีคำว่า ‘เขียน’ ขึ้นมาอยู่ทุกสเตจเมนต์ของชีวิตเราน่ะ คือคนบางคนน่ะ เขียนเพื่ออยู่ ก็คือต้องรีบเขียน เพราะว่าเดี๋ยวไม่มีอะไรกินน่ะ แต่ของเราอยู่เพื่อเขียน อยู่ไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แล้วก็จะเอาชีวิตที่ใช้มาเขียนถึงชีวิตนั้น”
hhhh
ขณะที่มองดู อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง พูดประโยคสุดท้าย เรารู้สึกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ ‘มีมิติ’ ในตัวตนจริงๆ
hhhh
ขอบคุณเรื่อง/ภาพ: วิภว์ บูรพาเดชะ จาก http://www.happeningnow.net
และทำความรู้จักกับ อธิชา มากกว่านี้ได้ที่ www.aticha.bloggang.com
huahinhub Thanks

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น