5.24.2552

| สร้างสรรค์วัฒนธรรม และสังคมเมือง ๕๘ (รู้จัก LOMO กัน)







สวัสดี เพื่อนพี่น้อง ชาวหัวหินที่เคารพรัก
เรื่องนี้ huahinhub เก็บเกี่ยวเรื่องกล้อง LOMO มาฝากกัน เป็นตอนแรก เนื่องจากมีเนื้อหาเกี่ยวกับ LOMO เป็นกะตั่ก..
เอาว่า เริ่มต้นจากการมาทำความรู้จัก ที่มาที่ไปของ LOMO พอเป็นกระสัย น่าจัดีนะ มะมา...

สำหรับจุดกำเนิดของ LOMO เกิดและเริ่มต้นที่ประเทศรัสเซียคะ ความน่าสนใจของมันอยู่ที่อารมณ์ของภาพและสีที่ได้จากการล้าง cross จึงบังเกิดภาพงามๆที่เรารู้สึกหลงไหลในความมีเสน่ห์ของเจ้าโลโม่มาจนถึงวันนี้ ด้วยเหตุนี้จึงขอนำบทความเกี่ยวประวัติการกำเนิดโลโม่ มาเผยแพร่ ณ ที่นี้เริ่มกันเลย.....

ประวัติโลโมกราฟี
โลโมกราฟี (Lomography) เป็นเครื่องหมายการค้าของ Lomographische AG ประเทศออสเตรีย สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับการถ่ายภาพ. โดยได้ซื้อสิทธิ์การใช้ชื่อมาจากโลโม (LOMO PLC) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเลนส์ของรัสเซีย. กล้อง 35 มม. LOMO LC-A ถูกโปรโมตโดยผู้ที่ชื่นชอบในงานแสดงภาพต่าง ๆ ทั่วโลก

ประวัติ
เดิมทีกล้องโลโม่ออกแบบมาเพื่อใช้ในหน่วยงานสายลับของกองทัพรัสเซีย โดย LOMO ย่อมาจาก Leningrad Optical Machinery Organization ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ผลิตเลนส์เพื่อใช้ในโครงการอวกาศของกิจการกองทัพและผลิตเลนส์ที่ใช้ในกล้องโทรทัศน์ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงและอุตสาหกรรมของสหภาพโซเวียตในขณะนั้น มีคำสั่งให้หน่วยงาน LOMO ผลิตกล้องเลียนแบบกล้องคอมแพคท์ของญี่ปุ่นขึ้นมาให้เร็วที่สุด ถูกที่สุดและมากที่สุด เพื่อแจกจ่ายให้พลเมืองรัสเซียทุกคนได้รู้จักการถ่ายรูป


โดยมีคำขวัญว่า "คอมมิวนิสต์อันทรงเกียรติทุกคนควรมีกล้อง Lomo Kompakt Automat LC-A เป็นของตัวเอง" โดยผู้ผลิตกล้อง Lomo Kompakt Automat LC-A คือ Michail Aronowitsch Radionov อดีตสายลับ KGB

ต่อมาเมื่อในปี พ.ศ. 2534 Matthias Fiegl และ Wolfgang Stranzinger หนึ่งในผู้บริหารบริษัท Lomographische AG เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก แต่ลืมนำกล้องถ่ายรูปไปด้วย จึงไปซื้อและได้รู้จักกับกล้อง Lomo Kompakt Automat โดยบังเอิญ และหลังจากได้ถ่ายและล้างรูปจากร้านล้างรูปธรรมดาในซุเปอร์มาร์เก็ตผลออกมา พบว่าภาพถ่ายมีสีสันจัดจ้านดูผิดเพี้ยน แต่มีความสวยงามจนทำให้พวกเขาได้หลงใหลกับภาพที่ปรากฏขึ้น

และในปี 2535 Fiegl และเพื่อนได้จัดตั้งบริษัท Lomographische AG ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากนั้นไม่นานกระแสความนิยมในโลโม่กระจายไปทั่วโลก ภายใต้แนวความคิดว่า "Lomography is an analog lifestyle product"

มีเรื่องราว ชมรม คนรัก และหลงไหล ในการถ่ายภาพด้วย LOMO มากมายในเมืองไทย ขนาดที่ว่ารวมตัวกันทำกจกรรมร่วมกัน เป็นเรื่องเป็นราว มานักต่อนัก อีกทั้ง เชื่อหรือไม่ ในประเทศไทยยังมี 'สถานฑูตโลโม' อีกด้วย.....ว้าว !!!! ติดตามตอนต่อไปนะ...สวัสดี

ขอบคุณข้อมูลจาก http://lomogirl.blogspot.com
huahinhub Thanks

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น