5.29.2552

| กระตุ้นความคิด ด้วยไอเดีย ๗๑ (นักเขียน วัยใส)


คุยกับคนวัยเรียน ที่รักงานเขียนเป็นชีวิตจิตใจ และไขว้คว้าหาโอกาสใหม่ๆ บนโลกออนไลน์ ทำความฝัน "อยากเป็นนักเขียน" ของพวกเขาให้เป็นจริง
hhhh
เส้นทางการเป็นนักเขียนในสมัยก่อน อาจเริ่มจากการส่งเรื่องเขียนสำนักพิมพ์ มาถึงยุคออนไลน์ เจ้าของผลงานสามารถนับหนึ่ง ที่การนำงานเขียนไปโพสต์บนเว็บไซต์ โลกไซเบอร์เป็นโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ แน่นอนว่ารวมถึงเยาวชนคนวัยเรียน
hhhh
หลังจากที่ สำนักพิมพ์แจ่มใส จัดโครงการ “นักเขียนหน้าใส” ครั้งที่ 1 เพื่อค้นหานักเขียนหน้าใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี จากผู้ส่งนิยายเข้าประกวดจำนวนกว่า 800 เรื่อง ก่อนคัดให้เหลือเพียง 20 เรื่อง แล้วนำไปโพสต์บนเว็บไซต์ เด็กดี ดอทคอม โดยให้นักเขียนทยอยอัพแต่ละตอนของเรื่องสัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้ผู้อ่านเป็นคนโหวต ใครที่ได้คะแนนโหวตน้อยที่สุดก็จะต้องตกรอบไป โดยในที่สุดจะเหลือเรื่องที่ผู้อ่านชื่นชอบมากที่สุดเพียงเรื่องเดียว
hhhh
"ช่วงวันหยุดปิดเทอมอันแสนว่างและน่าเบื่อ =_= เพื่อนๆ ทุกคนคงจะช็อกน่าดูถ้ารู้ว่าฉันใช้เวลาเกือบทั้งหมดไปกับการ... เกาะติดอยู่หน้าจอโทรทัศน์แบบไม่ขยับไปไหน หลังจากที่ได้เห็น ‘อะนะ’ หนุ่มหน้าหวาน เสียงไพเราะชวนฝัน หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการเรียลลิตี้โชว์ ‘Dream Delivery ภารกิจส่งฝันถึงที่ ฟรี! ค่าบริการ’ ซีซั่นที่ 5 >O<"
hhhh
๐ ภาษาวัยรุ่นแบบนี้ ที่เป็นส่วนหนึ่งของบทนำจากเรื่อง Dream Delivery ส่งรักถึงที่แถมฟรีหัวใจ ของ มิลค์ - ณัฐวดี ศิริภาณุรักษ์ ผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด จนได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดในครั้งนี้ และได้เป็นนักเขียนหน้าใหม่ของสำนักพิมพ์แจ่มใส 'มิลค์' เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของการประกวดในครั้งนี้ว่า “เริ่มจากการที่มิลค์ชอบอ่านนิยาย พอเริ่มเขียนนิยายของตัวเองก็เขียนแนวกุ๊กกิ๊ก ซึ่งเป็นแนวที่ชอบมาตั้งแต่ ม.5 พอทราบว่ามีโครงการประกวดนักเขียนหน้าใส โดยให้ส่งพล็อตกับเรื่องย่อ และตอนที่ 1 ส่งเข้าไปก่อน มีระยะเวลา 1 เดือนในการประกวด พล็อตเรื่องจึงเกิดขึ้นใน 1 เดือนนั้น"
hhhh
ความสามารถในการเขียนของ 'มิลค์' เริ่มต้นด้วยจุดเล็กๆ จากการประกวดแต่งคำขวัญวันแม่ในงานวันแม่ของโรงเรียน แล้วได้รับรางวัล จากนั้นก็ส่งผลงานเข้าประกวดตามเวทีต่างๆ มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการแต่งเรียงความ คำขวัญ สุนทรพจน์ ฯลฯ 'มิลค์' เล่าว่าเธอชอบเขียนนิยาย และเคยนำนิยายที่เขียนไว้ไปลงเว็บอยู่เรื่องสองเรื่อง แต่ไม่เคยมีใครมาคอมเมนต์ ดังนั้น เมื่อเห็นว่ามีการจัดประกวด และคณะกรรมการตัดสินจะต้องร่วมให้ความคิดเห็น เธอจึงคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพื่อจะได้รู้ว่างานเขียนของตัวเองมีจุดดีจุดด้อยอย่างไร จึงตัดสินใจส่งผลงานเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
jjjj
"ตอนที่รู้ว่าเข้ารอบเป็นหนึ่งในยี่สิบเรื่องสุดท้าย ก็ตื่นเต้น ดีใจ เราไม่รู้ว่าเรื่องของคนอื่นเป็นยังไง จะรู้แค่ชื่อเรื่อง ยิ่งเข้ารอบลึกๆ เป็นผู้ชนะเลิศในการประกวด ได้เห็นคนที่เข้ามาอ่านมาคอมเมนต์ เขียนให้กำลังใจ เห็นเขาชอบนิยายที่เราเขียน ทำให้รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น มีความสุข ได้ไปอ่านนิยายของคนที่เข้าประกวดด้วยกันอยู่บ้าง ดูว่าคนอ่านชอบนิยายแนวไหน นำส่วนนี้มาปรับใช้ในการแต่งนิยายของเรา"
hhhh
นักเขียนวัยใส บอกด้วยว่า คุณพ่อ คุณแม่ เมื่อทราบว่าเธอส่งนิยายเข้าประกวดก็ให้การสนับสนุนเต็มที่ ทั้งเข้าไปอ่าน เข้าไปโหวต เธอบอกว่าที่จริงแล้ว เธอไม่ได้หวังว่าจะชนะด้วยซ้ำ แต่รางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ถือเป็นเป็นก้าวแรก เพื่อที่เธอจะก้าวต่อไปบนเส้นทางสายนักเขียน โดยผลงานของเธอได้รับการตีพิมพ์กับทางสำนักพิมพ์แจ่มใส และเธอได้รับค่าตอบแทนไม่แตกต่างจากนักเขียนมืออาชีพ วันนี้ 'มิลค์' ศึกษาในชั้นปีที่ 2 คณะเศรษฐศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
hhhh
“ตอนที่จะเข้ามหาวิทยาลัย ลังเลอยู่สองอย่าง คือจะเรียนอักษรศาสตร์หรือเศรษฐศาสตร์ดี ลังเลมาตลอด คิดไปคิดมา เศรษฐศาสตร์ อย่าง กราฟ หรือสูตรต่างๆ เราไม่เข้าใจมันแน่ๆ มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเรียนได้ด้วยตนเอง แต่อักษรศาสตร์เราสามารถเรียนรู้ได้ เรารักในด้านนี้ ยังไงเราก็จะอยู่กับตัวหนังสืออยู่แล้วเป็นสิ่งที่เราฝึกฝนได้ ก็เลยเลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ ส่วนอักษรศาสตร์ศึกษาด้วยตนเอง" 'มิลค์' บอกว่าเธอแอบเอาบรรยากาศตอนเรียนมาใช้ในงานเขียนด้วย เช่น ตอนพระเอกของเรื่องทำข้อสอบ ก็เอาโจทย์วิชาเศรษฐศาสตร์ที่เรียนมาใช้
jjjjj
ถามถึงสิ่งที่ได้จากการเขียน นักเขียนหน้าใหม่บอกว่า "ปกติเป็นคนชอบเขียน ถ้าเขียนเฉยๆ เขียนเล่นๆ เราจะรู้สึกว่าเอาเวลาไปอ่านหนังสือดีมั้ย แต่พอมาเขียนนิยายเป็นเรื่องเป็นราว เป็นเหมือนการสร้างผลงานของตัวเอง รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ คนอ่านก็ได้ความบันเทิง ได้ผ่อนคลายจากสิ่งที่เครียด" 'มุ่งมั่น-ไม่ท้อ' คาถาแห่งความสำเร็จ
kkk
kkk
๐ ส่วนนักเขียนรุ่นพี่อย่าง โอ๋ แสงอรุณ วรรณจู นิสิตภาควิชาสื่อสารการแสดง คณะนิเทศศาสตร์ จากรั้วจามจุรี ซึ่งมีงานเขียนมาแล้ว 2 ปี โดยแจ้งเกิดจากเรื่อง Paparazzi ปฏิบัติการนี้จารชนหัวใจ และเรื่องล่าสุด Thief Lady ปฎิบัติการปล้นหัวใจนายจอมโฉด ผลงานของเธอมีให้เห็นเกือบทุกแนว ทั้งแนวรัก แนวแฟนตาซี ด้วยความที่อยากเป็นนักเขียนมาตั้งแต่เด็ก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการแต่งนิยายตั้งแต่อายุ 13 ปี โดยเขียนนิยายลงสมุดให้เพื่อนๆ ในห้องอ่าน และมาเอาจริงเอาจังตอนเข้ามหาวิทยาลัย
hhhh
“ตอนที่เขียนนิยายให้เพื่อนๆ อ่าน เพื่อนก็ชอบกัน เลยเอานิยายที่แต่งไว้มาลงเว็บ อยากรู้ว่าเรื่องที่เราแต่งจะมีคนชอบมั้ย หรือว่ามีแค่เพื่อนๆ ที่ชอบ หลังจากที่เขียนนิยายลงบนเว็บไซต์สักพัก เรตติ้งค่อนข้างดี เริ่มมีแฟนคลับ คนที่เข้ามาอ่านก็คอมเมนต์ให้ลองเสนอให้สำนักพิมพ์" คำแนะนำจากแฟนผลงาน ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอเริ่มตั้งเป้าเอาจริงเอาจังกับการเขียนนิยาย ก่อนจะรวบรวมผลงานที่เป็นเล่มส่งให้สำนักพิมพ์ ส่งอยู่ราว 1 ปี ถึงได้ตีพิมพ์ "ที่ต้องรอ เพราะเหมือนกับว่าเรายังหาแนวไม่เจอ ต้องแก้หลายครั้ง ปรับไปเรื่อยๆ เขียนไปเรื่อยๆ เขียนเรื่องหนึ่งจบ ก็เริ่มเขียนเรื่องใหม่ จนได้เรื่องที่ดีที่สุด ที่จะตีพิมพ์เป็นหนังสือ”
hhhh
โอ๋บอกว่า งานเขียนยุคแรกๆ จะเป็นการนำเอาดาราที่ชื่นชอบมาเป็นตัวละคร เหมือนดูละครแล้วไม่ได้ดั่งใจก็เขียนเองเสียเลย น่าสนใจตรงที่ก่อนหน้าจะเขียนนิยาย โอ๋บอกว่าเธอเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่เมื่อเปลี่ยนบทบาทจากคนอ่าน มาเป็นคนเขียน เธอจึงเริ่มอ่านหนังสือมากขึ้น หาความรู้มากขึ้น อ่านเพื่อนำความรู้มาเขียนในหนังสือ เพื่อให้รู้ว่าตอนนี้แนวของหนังสือเป็นแบบไหน ประสบการณ์จากการเขียนบทละครเวทีให้กับคณะ ประกอบกับการเรียนสาขาสื่อสารแสดงเป็นสิ่งที่ช่วยได้มากในการเขียน
hhhh
"เรียนสาขาสื่อสารการแสดง ต้องเรียนเกี่ยวกับการเขียนบทละคร การวางโครงเรื่อง การใช้ภาษา ก็ตรงกับการเขียนนิยายพอดี ทำให้เรามีความรู้เกี่ยวกับการวางโครงเรื่องที่น่าสนใจ สามารถดึงสิ่งที่เรียนมาใช้ในงานเขียนของเรา ทำให้รู้ว่าจะทำยังไงให้นิยายน่าสนใจ" แม้ครอบครัวจะไม่ให้การสนับสนุนมากนักในช่วงเริ่มต้น แต่เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นความตั้งใจจริงในการเป็นนักเขียนของเธอ และเธอสามารถพิสูจน์ด้วยว่าเธอสามารถแบ่งเวลา เพื่อทำกิจกรรมที่เป็นความถนัดและสนใจโดยไม่เสียการเรียน รวมทั้งมีความเป็นผู้ใหญ่ มีการคิดวางแผนชีวิตในภายภาคหน้า ผู้ปกครองจึงเปิดไฟเขียวให้เต็มที่
hhhh
ตอนนี้ 'โอ๋' เรียนจบแล้ว มีเวลาเขียนนิยายอย่างเต็มที่ เธอวางแผนไว้ว่าจะเรียนต่อปริญญาโท พร้อมๆ กับเขียนนิยายไปด้วย เวลาว่างก็อ่านหนังสือ หาความรู้เพื่อที่จะเรียนต่อ “อยากแนะนำน้องๆ ที่อยากเป็นนักเขียน ว่าขอให้หาแนวทางของตัวเองให้ได้ และอย่าท้อ เพราะกว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ กว่าจะมีหนังสือเป็นของตัวเอง ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เรื่องแรกกว่าจะได้ตีพิมพ์ก็แก้กว่าสิบรอบ พยายามไปเรื่อยๆ สักวันมันต้องเป็นวันของเรา”
hhhh
เช่นเดียวกับ 'มิลค์' ที่ฝากถึงเพื่อนๆ ที่มีความฝัน "อยากให้ลงมือเขียนก่อน อย่าเพิ่งคิดว่าเราทำได้หรือทำไม่ได้ อย่างน้อยเขียนออกมา เพื่อบอกสิ่งที่คุณต้องการจะสื่ออกมา แค่นี้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเขียน” ถึงแม้เนื้อหาจะเป็นเรื่องกุ๊กกิ๊กตามสไตล์วัยรุ่นทั่วไป แต่ถ้ามองในแง่ของรูปแบบการทำงานแล้ว ทั้ง 'โอ๋' และ 'มิลค์' ก็เป็นตัวอย่างของเด็กรุ่นใหม่ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า 'วัย' ไม่ใช่ข้อจำกัดของการเป็นมืออาชีพ
hhh
อีก'หนึ่ง' ไม่สิ 'สอง' ตัวอย่างบนเส้นทางเดียวกัน ที่ฝัน มีฝันแล้วลงมือทำ ความสำเร็จ มันก็จะมาถึงในซักวัน เช่นนี้แล..สวัสดี
kkkk
ขอบคุณข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ
huahinhub Thnaks
hhhh

1 ความคิดเห็น: