5.29.2552

| กระตุ้นความคิด ด้วยไอเดีย ๗๐ (ออร์แกนิก เดลิเวอร์รี่)


ร้านเล็กๆ สร้างด้วยใจ หวังให้ผู้บริโภคมีสุขภาพดีถ้วนหน้า ด้วยสินค้าปลอดสารพิษที่บริการส่งถึงหน้าประตูบ้าน กับจำนวนสมาชิกปัจจุบันกว่า 300 ราย
hhhh
อีกธุรกิจที่เอื้อกับสังคมและชีวิตที่ดี ออร์แกนิก ดิลิเวอรี่ ไม่คิดค่าบริการส่งถึงบ้าน ไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อหวังร่ำรวย แค่อยากทำเรื่องดีๆ ให้กับคนรักสุขภาพและช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม
hhhhh
“เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า เจ้าของคอกม้าคนหนึ่งมาหาหญ้าเกษตรอินทรีย์แถวหนองจอกให้ม้าตัวละ 10 ล้านกิน แต่ตัวเขากลับไม่ได้สนใจกินอาหารปลอดสารพิษ”
hhh
พอทิพย์ เพชรโปรี เจ้าของร้านเฮลท์มี แถวราษฎร์บูรณะ จำหน่ายอาหารมังสวิรัติและปลอดสารพิษ รวมถึงบริการส่งสินค้าออร์แกนิกถึงบ้านทั่วกรุงเทพฯ เล่าให้ฟัง หลังจากชิมข้าวยำธัญญาพืช โรตีแป้งโฮทวีท และน้ำมะตูม (ที่เจ้าของร้านเด็ดใบมิ้นท์ใส่แก้วเพิ่มรสชาติให้ผู้ดื่ม) พร้อมๆ กับให้ความรู้เรื่องสุขภาพ หากถามว่า ร้านออร์แกนิกของเธอ เป็นการทำตามกระแส หรือเป็นช่องทางสร้างฐานะความมั่นคงให้ชีวิตใช่หรือไม่
hhhh
คำตอบจากเธอ คือ “ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง แค่อยากส่งความแข็งแรงและสิ่งดีๆ ให้กับผู้บริโภค”
ที่เธอกล่าวมา ไม่ใช่สโลแกนโฆษณาสินค้า แต่มีที่มาที่ไปของเรื่องราว หลังจากเธอจบปริญญาตรีด้านครูจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางแสน เธอไปเป็นครูอาสาในหมู่บ้านแถวเชียงใหม่ จากนั้นเรียนต่อปริญญาโทคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ และทำงานเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนวรรณสว่างจิต กระทั่งลาออกมาเปิดร้านออร์แกนิก
hhh
"เนื่องจากสุขภาพไม่ดี เป็นไมเกรนบ่อยมาก จึงหันมาดูแลเรื่องน้ำตาลและลดเนื้อสัตว์ ทำให้ร่างกายดีขึ้น และเรารู้ว่า ปัญหาของไมเกรนส่วนหนึ่งมาจากฮอร์โมน แต่ก็มีสาเหตุอื่นด้วย ก็เลยสนใจดูแลตัวเอง ประกอบกับมีครอบครัวต้องดูแลลูกๆ" พอทิพย์เล่าถึงความสนใจของตัวเอง
ชีวิตที่เลือกได้
hhhh
หากย้อนไปถึงความสนใจเรื่องสังคม เธอเคยเป็นครูอาสาในหมู่บ้าน จังหวัดเชียงใหม่ โดยไม่ได้รับเงินเดือน เพราะชอบทำกิจกรรมสังคมและครอบครัวให้อิสระเต็มที่ "ตอนนั้นเราไม่ติดกรอบเรื่องการแต่งตัวและไม่ใส่ใจเรื่องตำแหน่งหรือความมั่นคงของชีวิต แค่อยากทำงานช่วยเหลือคน และอาชีพครูก็ช่วยได้ง่าย ชีวิตจึงค่อยๆ บ่มเพาะอะไรบางอย่าง" เธอเล่าถึงตอนเป็นครูอาสาที่อำเภออมก๋อยและอำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ รวมถึงหมู่บ้านเด็ก จ.กาญจนบุรี ช่วงจังหวะนั้นเธอได้เห็นคนหนุ่มสาวในหมู่บ้านเด็กทำงานด้วยความเสียสละ แต่เธอกลับรู้สึกว่า ทำอะไรได้น้อยกว่าที่คิด ที่นั่นทำให้เธอเข้าใจเด็กมีปัญหามากขึ้น และกลับมาเป็นครูอีกครั้งที่โรงเรียนอนุบาลหนูน้อย แต่ไม่นานเธอลาออก เพราะปัญหาสุขภาพ เจอภาวะแท้งคุกคาม จึงต้องหยุดทำงานกว่าสิบปี
hhhh
“เมื่อก่อนเป็นไมเกรนเดือนละสองสามครั้ง แต่ตอนนี้สามเดือนครั้ง เวลาเครียดก็ทำสมาธิ โยคะตอนเช้า และดูแลสุขภาพ” เธอเล่าถึงชีวิตปัจจุบัน และย้อนถึงช่วงกลับมาทำงานอีกครั้งเป็นผู้บริหารโรงเรียนวรรณสว่างจิตนานกว่า 6 ปี เป็นช่วงที่เธออ่านหนังสือเยอะและหันมาสนใจธรรมะ
“หลังจากที่กลับมาทำงานอีกครั้ง ก็เจอปัญหาการบริหารจัดการ ร่างกายเริ่มทรุดโทรม เพราะทุ่มกับงานเต็มที่ จนได้มาเรียนรู้ธรรมะ ทำให้เราปลดอะไรบางอย่าง เพราะเราไปยึดโยง จึงต้องเปลี่ยนมุมมองในการบริหาร ก่อนหน้านี้เราเรียกร้องมาก เพราะเราเป็นคนทำอะไรเต็มที่ แต่ทำแบบนั้นทำให้ทุกข์ ในที่สุดก็คลี่คลายด้วยการปฏิบัติธรรม”
hhhh
สุขภาพต้องมาก่อน
ช่วงที่ทำงานบริหารโรงเรียนวรรณสว่างจิต เธอบอกว่า เจ็บป่วยตลอดเพราะทำงานเยอะ และมีโรคประจำตัวคือ ปวดท้องประจำเดือนและไมเกรน แต่ก็พยายามดูแลสุขภาพ จึงผลักดันให้นักเรียนในโรงเรียนบริโภคอาหารปลอดสารพิษ "ที่นี่น่าจะเป็นโรงเรียนแรกๆ ที่เด็กได้ดื่มนมปลอดสาร ตอนนั้นมีเพื่อนเลี้ยงวัวนมปลอดสารพิษ แดรี่ โฮม จึงนำเข้ามาในโรงเรียน ข้างๆ บ้านก็มาสั่งนมจากเรา ลูกๆ ก็ขี่จักรยานไปส่ง จากนั้นก็มีเครือข่ายมากขึ้นเรื่อยๆ"
hhhh
หลังจากลาออกจากการเป็นผู้บริหารโรงเรียน เธอหันมาทำธุรกิจเล็กๆ เริ่มจากส่งนมปลอดสารพิษ จากนั้นสินค้าเริ่มมากขึ้นมีข้าว ไข่ และผลิตภัณฑ์ปลอดสารจากเพื่อนๆ และเครือข่ายกว่า 90 ชนิด จนกลายเป็นธุรกิจดิลิเวอรี่ ช่วงแรกๆ เธอขับรถส่งสินค้าออร์แกนิกด้วยตัวเอง แม้ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อย แต่ก็มีความสุข มีลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีลูกค้าประจำกว่า 300 ราย
hhhh
"การทำธุรกิจต้องรอ จะเริ่มจากศูนย์หรือติดลบก็เริ่มไปเถอะ เราทำธุรกิจส่งความแข็งแรงและมอบสิ่งที่ดีให้พวกเขา เราได้ทดลองโดยให้ลูกของเรากินและใช้ เรามั่นใจกับธุรกิจแบบนี้" ถ้าจะให้สินค้าออร์แกนิกส่งถึงบ้าน เธอคำนวณแล้วว่า ลูกค้าต้องสั่งสินค้าอย่างต่ำ 300 บาท โดยไม่คิดค่าบริการส่งสินค้า เพราะเธอเห็นว่า การค้าต้องเป็นธรรม ซื้อที่ร้านหรือส่งถึงบ้านก็ราคาเท่ากัน
hhhh
สิ่งที่เธอทำ จึงไม่ใช่แค่ผลกำไร แต่ต้องเอื้อให้กับคนเล็กๆ ที่มีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อย่างเพื่อนบางคนของเธอทำการเกษตรปลอดสารมีผลผลิตไม่มาก ถ้าจะขายในห้างสรรพสินค้าคงยาก จึงนำผักผลไม้ตามฤดูกาลมาขายในร้านของเธอ
hhhhh
ดิลิเวอรี่รักสุขภาพ
สินค้าในร้านของเธอส่วนใหญ่มาจากเกษตรกรรายย่อย อย่างกลุ่ม ISAC กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านสันป่ายาง อ.แม่แตง จ. เชียงใหม่ มีผลิตภัณฑ์หลายอย่าง อาทิ เต้าเจี้ยวถั่วเหลืองอินทรีย์ น้ำยาซักผ้าจากมะละกอ ฯลฯ ส่วนข้าวหอมนิล ข้าวกล้องหอมมะลิเพาะงอก ข้าวไก่ป่า ข้าวกล้องอินทรีย์จากเกษตรกรหลายกลุ่ม “พอทำเรื่องพวกนี้เราเห็นแรงกระเพื่อมเยอะ ได้เห็นผู้ผลิตรายย่อยทำเรื่องดีๆ ก็มั่นใจมากขึ้น อย่างนมแดลี่ โฮม ผลิตได้จำกัด เราก็ช่วยเชื่อมต่อกับห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ เรามีเครือข่ายคนพวกนี้จากการทำกิจกรรมที่เชียงใหม่” เธอบอกว่า ธุรกิจเล็กๆ ของเธอ ไม่ต้องการแข่งขันกับใคร ยกตัวอย่างหากมีแชมพูมะกรูดให้เลือกกว่าสิบยี่ห้อ เธอจะเลือกกลุ่มเล็กๆ ที่คนไม่สนใจ อย่างกลุ่มที่ใช้มะกรูดลูกเล็ก แต่ต้องปลอดสารพิษและผลิตจากวัสดุธรรมชาติ
hhhh
“ถ้าเป็นกลุ่มใหญ่ๆ มีคนสนับสนุนเยอะ มีช่องทางอยู่แล้ว แต่คนเล็กๆ ไม่มีช่องทาง เราจึงอยากช่วยเหลือ บางฤดูกาลเกษตรกรไม่ทำแชมพูมะกรูด ต้องไปทำนา ทั้งๆ ที่ลูกค้าบอกว่าใช้ดี เราก็ต้องตอบคำถามลูกค้า หรือข้าวยำหนึ่งจานที่นี่ มั่นใจได้ว่ามีผักออร์แกนิก 70% อีกอย่างเราไม่ชอบเอาสินค้าจากชุมชนมาทำแพ็คติดแบรนด์ตัวเอง ทั้งๆ ที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ยินดี อย่างกลุ่มยิ้มเขียวที่ปากช่อง คนปลูกผักเป็นคนดูแลสุขภาพและปฏิบัติธรรม แต่การตลาดไม่เก่ง เริ่มแรกมาขายที่ตลาดนัดสีเขียวที่อาคารรีเจ้นท์ทุกวันพฤหัส พวกเขาได้แลกเปลี่ยนกับลูกค้า ก็มั่นใจมากขึ้น เดี๋ยวนี้ลูกค้ามารอซื้อ ทำให้กลุ่มอื่นๆ กล้าทำ และอีกไม่เกิน 5 ปี เกษตรอินทรีย์จะทำเยอะกว่านี้”
hhhh
ร้านเฮลท์มีของเธอเพิ่งเปิดบริการปีกว่าๆ ช่วงเที่ยงจะมีลูกค้าเต็มร้านทุกวัน และกำลังจะเปิดสาขาสองในย่านเดียวกัน ส่วน
ออร์แกนิก ดิลิเวอรี่ทำมานานกว่า 10 ปี ทั้งให้ความรู้กับลูกค้าและพยายามดูแลสิ่งแวดล้อม เธอบอกว่า ปกติจะส่งสินค้าแต่ละเส้นทางให้ลูกค้าสัปดาห์ละครั้ง ถ้าหมู่บ้านไหนซาเล้งเข้าไม่ถึง เราก็ช่วยระบายขยะ ขวดพลาสติก น้ำมันพืชใช้แล้ว นำกลับมาด้วย
hhhh
นอกจากนี้ร้านของเธอยังเป็นที่พึ่งของคนเล็กๆ มีคนนำสินค้ามาฝากขาย ผู้ปกครองนักเรียนบางคนทำเค้กส้มใช้น้ำมันพืชแทนเนย หรือเพื่อนๆ ของเธอที่ปั้นตุ๊กตานำมาบริจาคให้ขายในราคามิตรภาพ เมื่อเหลือบไปเห็นเมนูอาหารเขียนไว้ว่า น้ำดื่มบริสุทธิ์ราคา 10 บาท (ดื่มไม่ถึงครึ่งขวด 5 บาท) เธอบอกว่า ถ้าลูกค้าดื่มแล้วเหลือ เราเก็บไว้ดื่มต่อในร้าน จ่ายแค่ 5 บาทไม่ต้องจ่ายเต็ม
hhhh
นี่คือ ร้านเล็กๆ ที่เอื้อให้กับผู้บริโภคฉันมิตรสหายร่วมโลก และต่อไปจะมีกิจกรรมอบรมการปลูกผักในแปลง ทำน้ำจุลินทรีย์ ซึ่งเพื่อนๆ ในเครือข่ายของเธอจะมาให้ความรู้ โดยเก็บค่าใช้จ่ายเล็กน้อย "คนส่วนใหญ่ไม่มีเวลาปลูกผัก เราใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงลงสวน การปลูกต้นไม้เหมือนการเลี้ยงสัตว์จะมีความปีติ เราพบว่า คนกรุงเทพฯ อยากปลูกผักจึงจัดกลุ่มเล็กๆ กว่า 10 คนมาปลูกผักกัน ต่อไปจะไปดูที่บ้านว่าปลูกผักแล้วมีปัญหาอะไร อีกอย่างที่อยากทำคือ การเยี่ยมฟาร์มผักอินทรีย์ อบรมทำซีอิ๊ว เต้าเจี้ยว เพาะเห็ด น้ำยาล้างจาน เอาดอกไม้มาทำอาหาร รับจัดกระเช้าสุขภาพ เรามีความรู้เรื่องโภชนาการอยู่แล้ว เราจะถามว่า จะจัดให้ผู้ป่วยโรคอะไร อายุเท่าไหร่"
hhhh
ชีวิตเธอมีทางเลือกเสมอ เมื่อขายและแนะนำให้ความรู้เรื่องอาหารปลอดสารพิษ เราถามไปว่า ที่บ้านปลูกผักอะไรบ้าง เธอบอกว่า ผักขม พืชสวนครัว เพาะเห็ด ทำปุ๋ยและทำดินใช้เอง "เราไม่เสียเงินจัดสวน แต่เราปลูกไม้ที่กินได้" ............................หมายเหตุ : เฮลท์มี ดิลิเวอรี่ติดต่อได้ที่เบอร์ 081-6392232
อีกหนึ่งหนทางและความคิดในการสร้างอาชีพที่ huahinhub หยิบยกมาฝากพี่น้องชาวหัวหินกั ...ต้องสู้จึงจะชนะ..จริงเสมอนะ..ว่ามั๊ย...สวัสดี
hhhh
ขอบคุณข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ
huahinhub Thanks
hhhh

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น