![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiMqOJr_BSWVKhCXTeSGdZKeDuUFpkt_U3IuDBBzwivmNh37nE7UEdHddPWAxgscIqPW3LZoB9bNFN-jvhGIPWB_etXzW7RLjwUfDvnqM4Exky7QTvn8r2PbXUxlOuHKHTFvSp_QVMW7EvD/s320/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89.jpg)
h
มาดูแลสุขภาพร่างกายกันบ้าง..huahinhub อามามาเล่าเรื่อง อาหารการกินเพื่อคลายร้อน แก่ชาวหัวหิน..ที่
ไม่ว่าจะดื่มน้ำชนิดไหนดับกระหาย คงเทียบไม่ได้กับแหล่งรวมวิตามินหลากหลายอย่าง “ผักผลไม้” ที่กินได้กินดี คุณค่าที่หลายคนไม่ควรละเลย
hh
hh
ปีหนึ่งได้สัมผัสลมหนาวกันได้ไม่กี่วัน เพียงข้ามคืน พื้นโลกก็แผ่ไอร้อนระอุจนตัวแทบละลาย แต่จะให้พึ่งเครื่องปรับอากาศอย่างเดียวคงไม่ไหว เพราะวันๆ หนึ่งเราคงไม่ได้ฝังตัวอยู่ในอาคารเท่านั้น เมื่อเราเปลี่ยนโลกไม่ได้ เราก็ควรจะปรับตัว และหัวใจไม่ให้ร้อนไปกว่าอากาศภายนอกจะดีกว่า
เมื่ออากาศร้อนจัด ร่างกายของคนเราต้องสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ การดื่มน้ำเพื่อปรับสมดุลทำให้ร่างกายคลายร้อนขึ้น อาจธรรมดาเกินไปสำหรับหนุ่มสาวยุคไฮเทค
“ผักผลไม้” ที่มีคุณสมบัติในการลดอุณหภูมิความร้อนของร่างกาย จึงเสนอตัวเข้ามาช่วยให้ร่างกายและจิตใจสดชื่น แถมรสชาติหวานฉ่ำชื่นใจ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย และยังมีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งสรรพคุณทางยา ช่วยบรรเทาและบำบัดอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นได้ดี และช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ในระดับหนึ่งหากบริโภคเป็นประจำ ก็ทำให้ผักผลไม้กลายเป็น “ยาวิเศษ”
hhhh
แต่จะเลือกผลไม้เมืองหนาวนำเข้าจากต่างแดน ดูเหมือนพวกเราจะ “ใกล้เกลือ กินด่าง” เพราะภูมิประเทศของไทยนั้นอุดมสมบูรณ์ด้วยดินดี น้ำดี อากาศเหมาะสม ถือเป็น สวนสวรรค์ของผลไม้เมืองร้อนหลากหลายพันธุ์ ที่จะสลับกันออกผลให้ได้รับประทานกันตลอดทั้งปี หาซื้อได้ง่าย และมีราคาถูก
ลองดูสิว่า ฤดูร้อน (มาก) นี้ ผักผลไม้ไทยตัวไหนจะเข้าวิน ซิวแชมป์ “สุดยอดผักผลไม้คลายร้อนแห่งปี”
ดวงจันทร์ เฮงสวัสดิ์ นักวิชาการสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โหวตให้ “กล้วย” มาเป็นอันดับแรก เพราะนอกจากจะเป็นผลไม้ที่มีรสหอมหวาน รับประทานง่าย หาซื้อได้ทั่วไป เพาะปลูกไม่ยาก และออกผลผลิตตลอดปี
แถมยังมีคุณสมบัติเด่น ช่วยให้ปอดชุ่มชื่นและแก้กระหายน้ำได้เป็นอย่างดี และใช้รักษาภาวะความดันโลหิตสูง ลดภาวะความเป็นพิษของร่างกายได้ด้วย
โยกมาฟากพืชสมุนไพรกันบ้าง คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “กระเจี๊ยบ” ต้องติดอันดับแน่นอน นอกจากสีแดงชวนดื่มแล้ว มันยังรักษาอาการร้อนในภายในช่องปาก ลดระดับไขมันในเส้นเลือด ลดความดันโลหิต และเป็นยาระบายอีกด้วย
แต่เมื่อมาดูรายชื่อพืชผักผลไม้ลดดีกรีความร้อนในร่างกายแล้ว เจ้าใบบัวบก ใบสะระแหน่ ขนุน ชมพู่ แตงโม แตงไทย กระท้อน บ๊วย มะนาว มะพร้าว มะม่วง อาจต้องชิดซ้ายหลบไป เพราะหลากหลายชื่อที่เราไม่คุ้น และรสชาติไม่ถูกลิ้น จนหลายคนร้องอี๋ กำลังจะเป็นม้านอกสายตาที่มองข้ามไม่ได้
“กระจับ” หน้าตาคล้ายเขาควาย รสชาติหวานมัน ช่วยคลายร้อน แถมแก้ปวดเมื่อกล้ามเนื้อ ปวดหลัง และแก้พิษจากสุรา
ตามด้วย “มะเฟือง” ผลสีเขียวใสอมเหลือง รสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อชุ่มน้ำ มีสรรพคุณ บรรเทาอาการไอ ปวดศีรษะ บรรเทาอาการนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เป็นออปชั่นเสริม
แม้ชื่อจะ“ระกำ” แต่ถ้าได้ลิ้มชิมรสเปรี้ยวจี๊ดติดหวาน ชีวิตก็จะไม่ช้ำชอกอีกต่อไป เพราะมันบรรเทาอาการกระหายน้ำ และสกัดไข้หวัดได้ชะงักงัน
ส่วน “มะขามป้อม” ผลสีเขียวอ่อน รสฝาดอมหวาน บรรเทาอาการกระหายน้ำทำให้ชุ่มคอ และเป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ
นอกจากจะสามารถรับประทานทั้งผลสดแล้ว นักดื่มหัวครีเอทมักนำมาผสมน้ำแข็งเป็นน้ำปั่น ซึ่ง www.pha.narak.com ขอแนะนำสูตร “น้ำผักปั่น” ไว้ให้สาวกสมูทตี้ลิ้มลองกัน
เริ่มด้วยการตระเตรียมส่วนผสมและล้างให้สะอาด แล้วแช่ผักในน้ำส้มสายชูผสมน้ำ (1 ช้อนตวงต่อ น้ำ 1 ลิตร) แล้วนำมาล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อให้สารพิษตากค้างในผักให้หมดไป
จัดทัพผักกาดหอม 2 ใบ ช่วยทำให้กล้ามเนื้อ กระดูกเส้นเอ็น และปอดแข็งแรง ตามด้วย คื่นฉ่ายสองก้านรวมใบ ช่วยในการหมุนเวียนเลือด และหลอดเลือดแข็งแรง และ มะเขือเทศลูกใหญ่ 1 ลูก ทำให้เม็ดเลือดดี กับ หอมใหญ่ 1/4 ลูก เพื่อให้หัวใจแข็งแรง ตามด้วย น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานรวม เพิ่มน้ำมะนาว 1 ลูก ช่วยฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน และแอ๊ปเปิ้ล 1/2 ลูก รวมทั้งน้ำเปล่าหรือน้ำแร่ 2-4 แก้ว
ต่อจากนั้นก็ลงมือเอาทุกอย่างมาปั่นรวมกันดื่มภายในครึ่งชั่วโมง เพื่อให้สารอาหารอยู่ครบ ดื่มเป็นประจำก่อนอาหารเช้าและก่อนนอน แล้วร่างกายจะสดชื่น จิตใจแจ่มใส คลายร้อน แถมคลายเครียดด้วย
ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายกันนะชาวเมืองหัวหิน ที่รัก... สวัสดี
ขอบคุณข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ
huahinhub Thanks
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น