5.05.2552

| สร้างสรรค์วัฒนธรรม และสังคมเมือง ๒๓ (ผักข้างรั้ว-ทำเงินกับยามว่าง)




h
h
ไม่แน่เสมอไป ที่การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ จะไม่เอื้อกับสิ่งละอันพันละน้อย อย่างการปลูกพืชผักแปลงเล็กแปลงน้อย เพื่อเสริมสร้างการดำรงชีวิต ให้สามารถยืนหยัดอยู่ บนลำแข้งของตัวเอง huahinhub หยิบจับมาฝากกัน เชิญชาวหัวหิน ติดตาม กันมา........


ผักข้างรั้ว-สวนครัวทำเงิน
เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อคุณแจม-สุทธิกัญญา ไทยเพ็ชร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ เดินทางไปกับออฟโรดเดอร์คลับทริปของโตโยต้าปลายปีที่ผ่านมา ออกสตาร์ตที่ประเทศไทยไปประเทศลาวและล่องยาวไปถึงเวียดนาม ในฐานะบอสใหญ่ของเล็กซ์ซัส คุณแจมดูแลความเรียบร้อยของทริป ขณะเดียวกันก็สนุกไปกับสองข้างทางอันยาวไกล

โครงการผักสวนครัว ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
ผ่านประเทศไทยไปด้วยวิวที่คุ้นเคย นอกหน้าต่างรถเป็นสีเขียวสลับน้ำตาลไปตลอดเส้นทาง คุณแจมจึงยังตัดสินใจไม่ได้ว่า ไทยเราแห้งแล้งหรืออุดมสมบูรณ์กันแน่ ผ่านไปประเทศลาว สองข้างทางแห้งเป็นสีน้ำตาลตลอด คุณแจมรีบจดโน้ตไว้ในใจ แอบปลื้มหน่อยๆ ว่าไทยเขียวกว่าลาว ที่ไหนได้ทันทีที่ขบวนออฟโรดเข้าเวียดนาม สองข้างทางก็เปลี่ยนปุ๊บกลายเป็นสีเขียวชุ่มฉ่ำ สรุปได้ว่าเวียดนามเขียวที่สุด

ฝนออกจะเยอะ เพราะเป็นหน้ามรสุม สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ต้นไร่ คุณแจมประทับใจว่าบ้านทุกหลังในเวียดนาม ดูเหมือนจะพร้อมใจกันปลูกผัก หน้าบ้านหลังบ้านชาวเมืองต่างกันพื้นที่ไว้ปลูกผักแปลงเล็กแปลงน้อย ดูพร้อมเพรียงและได้ใจ พร้อม ๆ กับได้ใช้ประโยชน์

กินก็ได้ สร้างบรรยากาศก็ดี คุณแจมกลับถึงประเทศไทยพร้อมกับแปลงผักสวนครัวที่ยังอยู่ในใจ ก็พอดี “ศรราม” ยามที่บริษัทเดินเข้ามาขอพบ สายตามาดมั่นบอกความต้องการว่าจะขอพื้นที่ด้านหลังโชว์รูม “ผมขอเอาฟักทองมาปลูกจะได้ไหม” คุณแจมรีบอนุญาต แถมรีบควักเงินให้ไปซื้อเมล็ดพันธุ์อื่นๆ มาด้วย

คุณดาว-สุมนพินทุ์ คุณแจมสนุกใหญ่ ให้พนักงานช่วยกันรื้อแปลงสวนหย่อมที่ด้านหน้าโชว์รูมออก จากนั้นก็ช่วยกันหย่อนเมล็ดพันธุ์พืชสวนครัวหลายชนิด ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ได้กินกันไปหลายรอบ สวนครัวรั้วโชว์รูมแห่งนี้ นอกจากศรรามแล้วก็ยังมีเพื่อนยามอีกคน เข้าใจว่าจะชื่อ “วิลลี่” ที่รับหน้าที่เป็นผู้ดูแล (ยามที่นี่สงสัยจะหล่อเหมือนดาราทุกคน)

“สวนครัวของเล็กซ์ซัสเราทดลองปลูกหลายอย่าง ตั้งแต่พริก คะน้า กวางตุ้ง กะเพรา โหระพา ผักกาดหอม ต้นหอม ต้นผักชี ฟักทอง มะละกอและกล้วย เวิร์กสุดคือผักบุ้ง เพราะไม่กี่วันก็เก็บกินได้ เคยปลูกข้าวโพดแต่มันเหี่ยวไปหน่อย” คุณแจมเล่า ถามว่าลงทุนไปกี่สตางค์ คุณแจมบอกว่าไม่เคยคิด ..ก็คงไม่ได้คิดจริงๆ ขายรถคันหนึ่งราคา 10 กว่าล้านบาท ต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ซองละ 8 บาท จึงเป็นอะไรที่ไม่นับ

แต่ที่นับได้ คือความปลื้มของคุณแจมเอง ที่พนักงานรู้จักคิดและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ทุกคนในบริษัทตื่นเต้นกับแปลงผักแปลงนี้มาก “วันไหนตะไคร้แตกกอสะพรั่ง วันนั้นพวกเราได้กินน้ำตะไคร้กันทั้งบริษัท มันเป็นอะไรที่ปลื้ม ผักผลออกดอกออกใบกินกันไม่ทัน เศรษฐกิจพอเพียงน้องยามก็จัดแจงเอามากำเลย กำขายมัดละ 5-10 บาท เป็นรายได้ของเขา เป็นตัวอย่างสอนทุกคนในบริษัทให้รู้จักคิด รู้จักมอง และรู้จักใช้ประโยชน์ในทุกรายละเอียดของชีวิต” นี่...ไคเซนซะเลย

ขอบคุณข้อมูลจากwww.posttoday.com
huahinhub Thanks

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น