6.11.2552

| กระตุ้นความคิด ด้วยไอเดีย ๑๑๖ (กลยุทธ์ฝ่าวิกฤติ)


ลีเจนด์ เชียงราย..พลิกกลยุทธ์ฝ่าวิกฤติ
o
หลังความวุ่นวายทางการเมืองบรรเทาลง ความสงบเงียบก็เข้ามาเยือน บรรยากาศการท่องเที่ยวที่เหล่าผู้ประกอบการวาดหวังว่าจะคืนความครึกครื้นกลับมาอีกครั้ง หลังการปิดสนามบินก็เป็นอันปิดฉากลง
เพียงไม่กี่วันของวันแดงเดือดทำลายบรรยากาศท่องเที่ยวลงฉับพลัน
o
โรงแรมลีเจนด์ เชียงรายอีกครั้ง โรงแรม 4 ดาว ที่เคยต้อนรับแขกวีไอพีเงียบเหงาน่าใจหาย สะท้อนให้เห็นฝุ่นควันการเมืองที่ตลบยังไม่จางหาย แม้แต่แพ็คเกจสปาบำบัดที่เป็นที่ดึงดูดก็แทบไร้ร่องรอยนักท่องเที่ยว
o
ศรีพันธ์ เจริญผล ผู้จัดการ เชียงแสน สปา เล่าให้ฟังว่า แขกที่มาพักส่วนใหญ่หลงใหลและประทับใจกับผ่อนคลายสปา ช่วงพีคของสปา พนักงานสปาทั้ง 10 คน ดูแลลูกค้าทั้งหมด และบางครั้งไม่พอจนเธอ ซึ่งเป็นผู้จัดการก็ต้องลงให้บริการนวดลูกค้าด้วยตัวเอง
หลังสงกรานต์ ลูกค้าหายไปกว่าครึ่ง เพียงพนักงาน 4 คน ยังนั่งเหงา "ลูกค้าจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวียน ยอมทำงานเก็บเงินทั้งปี เพื่อมาพักผ่อนในสปา และท่องเที่ยวรอบๆ เมืองเชียงราย แต่ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังมีกำลังซื้อเข้ามาพักในลีเจนด์ และเชื่อมั่นในความปลอดภัยในความเป็นประเทศไทย"
o
ขณะที่ มาร์ค เอช. ดูเมอร์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมลีเจนด์เชียงราย เล่าเสริมถึงความเปลี่ยนแปลงว่า ลูกค้าจากทางยุโรปค่อนข้างมีความกังวลต่อความปลอดภัย ยิ่งเมื่อถูกสถานทูตเตือนเรื่องความปลอดภัย ลูกทัวร์และตัวแทนทัวร์ต่างก็ยกเลิกโปรแกรมเที่ยวไทย แพ็คเกจสปาพร้อมที่พักที่เคยเป็นจุดขายสำคัญก็ยังไม่สามารถจูงใจนักท่องเที่ยวได้ "กลุ่มเอเยนซี บางรายก็ถามถึงความปลอดภัยอยู่บ่อยครั้ง และไม่มั่นใจ รวมถึงพยายามต่อรองโดยการขอลดราคาห้องพัก มากกว่าเดิมที่จัดแพ็คเกจแบบลดราคาพิเศษ 50% ไว้แล้ว แต่ ลูกค้ากลับต้องการต่อรองเพิ่มเติม"
o
เขาบอกว่า ภาวะวิกฤติส่งผลกระทบอย่างหนักทำให้เอเยนซี และตัวแทนด้านการท่องเที่ยวในต่างประเทศ (Tour Operators) ต้องการให้โรงแรมลดราคาเพื่อดึงดูให้คนเข้ามาในไทยในฤดูท่องเที่ยวที่จะถึงนี้ เป็นสิ่งที่โรงแรมค่อนข้างหนักใจ เพราะนักท่องเที่ยวที่เข้าพักใน
ลีเจนด์ เชียงราย จะพักระยะสั้นเพียง 1-2 วัน และเป็น "ราคาที่ถูกที่สุดในประเทศ" เมื่อเทียบกับราคาในแหล่งท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเล สัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักทางภาคเหนือก็มีเพียง 15% ต่อนักท่องเที่ยวที่มีอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล มีถึง 60% ซึ่งพักยาวนานถึง 5 คืน
o
แต่เมื่อสถานการณ์เข้าตาจนการลดราคาเพื่อรักษาฐานลูกค้าก็เป็นสิ่งจำเป็น
"กิจการโรงแรมต้นทุนสูง เป็นการเสี่ยงกับการที่รอดตายจากการสูญเสียลูกค้าประจำที่หายไป จึงเริ่มหาแหล่งลูกค้าแห่งใหม่ โดยการเข้าไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ ดึงดูดลูกค้าในเอเชีย และอาเซียน เข้ามาพักแทน เพื่อบริหารจัดการให้ทดแทนลูกค้าที่หายไปเกินครึ่ง ซึ่งกำลังเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ ที่มีอัตราการเดินทางเข้ามาในไทยสูงขึ้น ให้เดินทางเข้ามาพัก"
o
หากเวิร์คงานกันอย่างจริงจัง แล้วเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายมาเป็นเชื้อเชิญตลาดข้างเคียง
เขาบอกว่า ในระหว่างวิกฤติเศรษฐกิจ เรามุ่งมั่นที่จะรักษาชื่อเสียงและภาพลักษณ์ต่อประเทศไทยให้มากที่สุด โดยผ่านทางชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และยังมีบางคนที่ไม่ต้องการเดินทางไปนอกประเทศไทย เพราะประสบภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงคนไทยในประเทศไทย ควรจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ กระตุ้นให้หันมาเที่ยวในประเทศไทยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือ Long weekend สอดคล้องกับแผนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ใน แคมเปญ “ไทยเที่ยวไทย”
o
ขณะเดียวกันก็จะดึงประเทศกลุ่มใหม่ จากประเทศเพื่อนบ้าน และในภูมิภาค กลุ่มตลาดเหล่านี้ถือว่ามีคนรวยเพิ่มขึ้นและมีศักยภาพให้ขยายจำนวนเดินทางมาไทยมากขึ้น อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง รวมถึงอินเดีย เป็นตลาดมีแนวโน้มของอัตรานักท่องเที่ยวเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นทุกปี
o
ส่วนตลาดเดิมก็ยังพอจะเหลือช่องว่าง ของคนมีกำลังซื้อที่ยังชอบประเทศไทยที่ต้องการเดินทางเข้ามาในไทย และเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจน้อยอย่าง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ก็ยังเป็นตลาดที่เข้าไปโปรโมทให้คนเข้ามาเที่ยว พร้อมทั้งมีการจัดโปรแกรมแพ็คเกจพิเศษ Honeymoon ให้กับลูกค้าสเปน อิตาลี โปรตุเกส ฝรั่งเศส กรีซ และไซปรัส
o
ทางโรงแรมตั้งเป้าให้มีแขกเข้ามาพักในช่วงไฮซีซันประมาณ 60% ของจำนวนห้องพัก ซึ่งในสถานการณ์ปัจจัยเพียงแค่ 50% ของจำนวนห้องพักทั้งก็ถือว่าเพียงพอ ที่จะคุ้มค่า จากปัจจุบันที่มีผู้เข้าพักเบาบางตามากเพียง 30% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด
o
ช่องทางการหาลูกค้าให้เข้ามาพัก โดยออกบูทภายใน TTM -Thailand Travel Market in BKK ระหว่างวันที่ 3-7 มิถุนายน ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นการสร้างโอกาสให้กับการท่องเที่ยวในไทย เพราะเป็นงานด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของปี จึงเป็นทางเชื่อม กลุ่มตัวแทนผู้จัดทัวร์ในต่างประเทศ (tour operators) จากตลาดเดิม (traditional market) และตลาดใหม่ ทั้งจากเอเชีย ยุโรปตะวันออก และอเมริกาใต้ จะเข้าร่วม และสร้างโอกาสใหม่ในการดึงดูดให้มีการสร้างร่วมมือกันโน้มน้าวตกลงที่จะส่งนักท่องเที่ยวเข้ามาในภาคเหนือ ก็จะมีโอกาสมาถึงโรงแรม
o
แม้หนทางข้างหน้าจะคาดการณ์ได้ยาก แต่เขายังเชื่อเสมอว่า ฟ้าหลังฝนมักจะสดใสเสมอ ฤดูกาลท่องเที่ยวปีหน้าจะพานักท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับปี 2547 ที่คลื่นสึนามิได้ซัดธุรกิจท่องเที่ยวเงียบงันไปพักหนึ่ง
o
แต่ในช่วงเวลาเช่นนี้ โรงแรมต้องจัดการต้นทุนให้อยู่หมัด
"ต้นทุนการจัดการบริการโรงแรมสูงมากเมื่อเทียบกับรายได้ ช่วงนี้จึงต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้ขาดทุน และโรงแรมยังเลี้ยงตัวเองได้ และรักษากระแสเงินสดไว้ให้คงที่ที่สุด" โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดเก่าหาย ตลาดใหม่ยังไม่มา ทำให้ลีเจนด์ จำต้องลดต้นทุนด้วยการปรับลดเงินเดือนพนักงานบางส่วน กระนั้นลีเจนด์ไม่ปล่อยให้ทรัพยากรที่มีอยู่สูญเสียไปพร้อมกับเวลาไร้แขกมาพัก ห้องที่ถูกปล่อยว่าง ตึกที่คอยให้บริการแขก ก็จะถูกแปลงโฉมพัฒนาปรับปรุงให้ใหม่ในเวลานี้
o
ทัศนียภาพใหม่ของลีเจนด์ กำลังจะเกิดขึ้น ด้วยการดึงเอาพนักงานที่กำลังว่างงานเข้ามาช่วยกันปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ให้อำนวยความสะดวกมากขึ้น พร้อมกับช่วยกันทาสีใหม่ให้งดงามกว่าเดิม จัดอบรมพนักงานที่กำลังว่างให้เพิ่มพูนทักษะด้านงานบริการแบบที่ลูกค้ามาเยือนจะต้องกลับไป "เป็นการปรับปรุงแบบต้นทุนต่ำที่สุด เพื่อบริหารต้นทุน แต่ต้องชะลอการวางแผนการลงทุนใหม่ที่สำคัญออกไปก่อนเพื่อรอวันที่เศรษฐกิจฟื้น และลูกค้าทั้งเก่าและใหม่กลับมาพักตามเดิม" เขาเชื่อเช่นนั้น
o
Key Ponit บริหารธุรกิจรอวันเศรษฐกิจฟื้น
๐ ลดเงินเดือนพนักงานบางส่วน
๐ รักษาสภาพคล่องให้มากที่สุด
๐ เปิดตลาดใหม่ทดแทนตลาดเก่า
๐ ปรับปรุงโรงแรมด้วยแรงงานพนักงาน รอรับวันแขกกลับมา
๐ ถือโอกาสอบรมพนักงาน
oo
ขอบคุณข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ โดย : ประกายดาว แบ่งสันเทียะ
huahinhub Thanks
o

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น