6.09.2552

| สร้างสรรค์วัฒนธรรม และสังคมเมือง ๙๙ (เปลี่ยนสังคมได้ด้วยอาชีพ)







o

o

o
สถาปนิกเปลี่ยนสังคมได้
สุรชัย แย้มศิริ หรือ “คุณนิค”
ผู้รั้งตำแหน่ง Managing Director แห่ง VANGUARD ARCHITECTS CO., LTD
บริษัทรับออกแบบครบวงจรตั้งแต่คิดจนสร้างเสร็จ

ใครจะเชื่อว่าจากเด็กที่เคยเรียนตกซ้ำชั้นจนต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่อีกครั้ง มาถึงวันนี้เขามีผลงานการออกแบบในเมืองไทยเพียง 20 ชิ้นเท่านั้น แต่นอกจากนั้นเป็นผลงานออกแบบของเขาที่ตั้งอยู่ในอินเดีย สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย นอร์เวย์ มอสโคว์ อิตาลี และทั่วโลกอีกกว่า 100 ชิ้นด้วยกัน ได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้วก็หลายครั้ง มุมมองของเขาน่าสนใจไม่น้อย

- เราพยายามวางนโยบายทุกคนให้ศิลปะมาก่อนธุรกิจ ความงามต้องมาก่อนเงินทอง เป็นปรัชญาที่ผมนำมาใช้ ส่วนชื่อบริษัทมาจากภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ล้ำยุค ล้ำสมัย เป็นทัพหน้าที่ไปลุยสิ่งต่างๆ”
o
- ผมพยายามทำให้ออฟฟิศเป็นเหมือนโรงเรียนสอนศิลปะ กล้าทำงานแปลกๆ กล้าทดลองความคิดใหม่ๆ เพื่อให้ที่นี่แตกต่างจากบริษัทอื่น อย่างวิศวกรของที่นี่ก็รับในแง่การดีไซน์เป็นหลัก อะไรที่แปลกๆจะชอบมันท้าทาย คิดมาเถอะฉันจะทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาให้ได้ จนกลายเป็นวิศวดีไซน์เนอร์กันไปหมดแล้ว
o
- ผมไม่อายที่จะบอกว่าเป็นคนเรียนไม่เก่ง คือมีความคิดเป็นของตัวเองสูงได้ C ได้ F เกรดดีไซน์ ก็สงสัยว่า เราเรียนไม่เก่งหรือเราไปไม่ถูกทาง แล้วตอนนั้นมีจัดประกวดแบบระดับโลก ผมก็อยากทดสอบฝีมือว่าเราอยู่ในระดับไหน ปรากฏว่างานเราได้ที่ 2 ของโลก(ยิ้ม)เชื่อไหมชีวิตเปลี่ยนเลย พอกลับมาเรียนออกแบบตัวไหนก็ตามมันได้ A หมดเลยนะ มันตลกอ่ะ
o
- คนไทยเห่อฝรั่งจ้างสถาปนิกหัวทองแล้วรู้สึกว่ามันดีกว่าคนไทยกันเอง ผมเลยใช้แนวคิดแบบป่าล้อมเมือง ไปทำงานเมืองนอกไปสร้างชื่อเสียงเอารางวัลเกียรติยศมาให้ดูเลย ไม่งั้นเราก็พูดจนเหนื่อยไม่มีใครเชื่อ เพราะสังคมของเราเป็นแบบนั้นจริงๆนะ สังคมเรามันอยู่กับค่านิยม พอผมเอางานที่ทำมาโชว์คนไทยก็ โอ้โหไม่ธรรมดา ก็ได้งาน
o
- ที่นี่ผมส่งเสริมให้พนักงานทำอะไรก็ได้ตามจินตนาการแถมงบให้ใช้ด้วย หมดก็ไม่ว่ากัน เพราะในความคิดฟุ้งๆจะมีสะเก็ดที่กระเด็นออกมา แล้วเราดึงเอาสะเก็ดเล็กๆนั้นมาใช้ เหมือนตอนเด็กที่เรามักจะคิดฟุ้งไปเรื่อยแต่มันก็จะมีบางอย่างที่เอามาใช้ได้

o
ถ้าคุณชอบความคิดของสถาปนิกผู้นี้ เรายังมีให้คุณได้ติดตามบทสนทนาพร้อมคำตอบมันส์ๆ สไตล์เขาภาพบรรยากาศในที่ทำงาน และ4 ผลงานที่คุณควรรู้ว่าเป็นฝีมือของเขา

๐ บริษัทที่มีแนวคิดแบบที่นี่ (VANGUARD ARCHITECTS) มีอยู่มากน้อยแค่ไหนในเมืองไทย
ก็...มันอาจจะมีนะ แต่อาจยังไม่โดนสะกิดเท่าไหร่ อย่างที่บอกกว่าผมจะมาถึงจุดนี้ก็เป็นสิบปี ก่อนที่จะมาเปิดบริษัทของตัวเองก็เคยไปทำทื่อื่นก่อนและก็โดนเชิญออก(ยิ้ม) เพราะเวลาเราเข้าไปที่ไหนเราก็จะมีวิธีของเราแล้วเขาบอกว่ามันเปลืองนะ ทำไมต้องตัดกระดาษหรือทำอะไรขนาดนี้ด้วย ไม่ต้องทดลองเลิกทำไม่ได้เหรอ พอเรามาเปิดออฟฟิศเอง เราก็เลยรับคนที่มีปัญหาเหมือนกับตัวเองให้มาอยู่รวมๆกันที่เป็นแบบเรา เพราะคนเหล่านี้พอไปที่อื่นก็ไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก

๐ ตอนนี้เป็นอาจารย์ด้วย คุณสอนนักศึกษาอย่างไร
ก็แค่ไปเพาะความคิดให้อยู่ในหัวสมองเขา อย่างเช่นพี่จะสอนให้เขาเป็นคนสังเกต สังเกตก็คือการต่อยอดนี่เอง พี่ประทับใจนะอย่างโน้ตที่เขามาทอล์คโชว์ คนพวกนี้เขาสังเกตนะ สังเกตธรรมชาติสิ่งต่างๆแล้วก็มารวบรวมเป็นเรื่องราว

เหมือนกันสถาปนิกก็ต้องสังเกตธรรมชาติสิ่งแวดล้อม แล้วเอามาประยุกต์ต่อยอด เราก็สอนลูกศิษย์เสมอว่าทำยังไงก็ได้ทำให้ตัวเองรัก ฉะนั้นเบื้องหลังการสอนอาจารย์ที่เป็นอาจารย์จริงๆก็จะไม่ค่อยชอบพี่ เพราะผมมาถึงคลาสแรกบอกในห้องเลยว่า อ๊ะใครอยากเรียนวิชานี้ยกมือ ใครไม่อยากเรียนไม่ต้องเข้าเรียน อาจารย์ให้เกรด B ไปก่อนเป็นอย่างต่ำ เพราะคนที่ไม่อยากเรียนแล้วมาอยู่ในกลุ่มเขาจะดึงให้คนอื่นเสียสมาธิด้วย ตัวเขาเองก็ไม่ได้อะไรเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือ กลุ่มเล็กลง เราสอนง่ายขึ้น ได้คุณภาพมากขึ้น อาจารย์คนอื่นก็ไม่เข้าใจ คณบดีรู้แล้วตกใจ ซึ่งในความจริงมันต้องเป็นอย่างนั้น ผมสอนออกแบบ คนที่เรียนก็ต้องรักการออกแบบ แต่คนไหนไม่ชอบบ้านมีธุรกิจเป็นของตัวเองจบไปก็ต้องไปทำต่อ แต่มาเรียนแล้วอยากได้เกรดดีๆพอ ผมก็ให้ B ไปเลย แล้วไม่มีเช็คชื่อไม่อะไรเลย ลูกศิษย์ก็อึ้ง งง เจอกันครั้งหน้าก็จะได้รู้กันเลยว่าใครอยากเรียนบ้าง ปรากฏว่ามากันเต็มห้องเลย(หัวเราะ) มันส์ดี

๐ แล้วก็ได้สอนนักศึกษาคณะแพทย์ที่มหิดลด้วย คุณไปสอนอะไรในคณะนี้
ก็เสนอกับคณบดี ซึ่งเขาก็ใจกล้าให้สอน เป็นวิชาเลือก งงไหม(ยิ้ม) อาจารย์เขาก็มานั่งฟังนะ อาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ เพราะเราพูดเรื่องความงามที่เป็นระดับพื้นฐานที่เป็นสากล ใช้ได้กับทุกเรื่อง การผ่าการรักษาการแพทย์จรรยาบรรณต่างๆ ทำให้มันเกิดความงามขึ้นมา

๐ ทำไมเลือกสอนคณะอื่นที่ไม่ใช่คณะสถาปัตย์
เพราะพวกนี้จบมามันเป็นนายทุนเราไง ต้องไปเปลี่ยนความคิดเขา ถึงตอนนี้ได้ไปสอนจนรู้เลยว่านายทุนจบมาจากคณะอื่นไม่ใช่สถาปัตย์ สอนไปก็ไม่มีประโยชน์ งั้นเราก็ไปสอนพวกนายทุนเลยดีกว่า เช่นพวกเด็กคณะแพทย์คณะมนุษย์ศาสตร์ เขาจบไปจะได้เข้าใจความงามที่เรามองกับเมือง

สังคมเรายึดติดค่านิยมแล้ววงการนี้มันจะโตไปได้ไหม มันคงต้องมีคนแบบผมเยอะๆไง ตอนนี้ถามว่ามีเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ เพราะสถาปนิกเมืองไทยต่างคนต่างอยู่ หากินกันไป เผลอๆหมั่นไส้กันเองก็มี คือสังคมไทยเป็นสังคมที่ยึดติดค่านิยม เราดูให้ขาดจนรู้ว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน รู้ว่าอ้อ ชอบแบบนี้ใช่ไหม ฉะนั้นเราก็ไปเอารางวัลเกียรติยศจากเมืองนอกมา เรื่องเส้นสายก็อีกอย่างหนึ่งที่เราต้องไปตีด้วย เมืองไทยใครจะได้งานดีๆสังเกตเส้นสายถึงกัน ไม่ใช่ความเก่งนะ คอนเน็คชั่นซะส่วนใหญ่

o
๐ คุณเคยชนะประกวดแบบอย่างถูกต้องแต่งานก็ไม่ได้สร้าง เกิดอะไรขึ้น
หอศิลป์ฯที่ปทุมวัน นี่คือแบบที่ชนะประกวด(ดูรูประกอบ)เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเขามองว่าเรายังเด็กอยู่เลยไม่ให้ทำ แม้ว่าเขาซื้อแบบเราแล้วด้วยนะ แต่มาดูอายุ โอ๊ยแค่ 27 เองนี่ ไม่เอาไม่มีประสบการณ์ เขาก็เปลี่ยนแบบกลายมาเป็นแบบที่สร้างอยู่ตอนนี้ โดยใช้แบบของพี่เอาไปพัฒนาให้ใกล้เคียงแต่ไม่สุดๆแบบของพี่ ของพี่จะใช้พื้นต่อเนื่องตลอด และมีความเป็นไทยอยู่ คือพอทำงานกับราชการก็ติดอีก สถาปนิกที่จะประกวดแบบราชการคุณต้องเคยสร้างงานมาไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท เราก็คิดในใจจะบ้าหรอ เพึ่งจบแต่อยากทำ
o
อันที่สองคือต้องเป็นสถาปนิกที่ผ่านการออกแบบมาแล้วกว่า 10 ปี ... อ่าว จบเลยเรา เขาไม่ให้เราทำบอกว่าไม่มีประสบการณ์แต่ใจมันอยากจะทำอ่ะ ก็เลยส่งไป ถึงตอนนี้ไม่เจ็บใจล่ะ มีคนบอกอย่าไปเจ็บใจ เราก็ไปทำงานเมืองนอกแทน ตอนนี้ต้องลืมและให้อภัยทุกอย่าง แต่ตอนนั้น อื้ม เจ็บใจ(หัวเราะ) เมืองนอกเขาไม่สนเลยนะว่าคุณอายุเท่าไหร่ เคยทำงานมาเป็นเงินเท่าไหร่

๐ ในกรุงเทพฯตอนนี้ยังมีพื้นที่เหลือพอให้สร้างอะไรที่มันเห็นแล้วตื่นตะลึงได้อีกไหม
มีๆ มีพื้นที่แต่ยังไม่มีใครทำ เออ น่าแปลกใจ ฮ่องกงก็มีที่ไหนก็มี คือจะมีอะไรที่เจ๋งๆอ่ะ สิงคโปร์ก็มี ESPLANADE ตึกหนามทุเรียน ที่ไหนก็มี ออสเตรเลีย เยอรมัน จีนก็มีที่เซี่ยงไฮ้ ลอนดอนก็มี แต่เมืองไทยไม่มีนะ(หัวเราะ) เออแปลก เป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้

๐ คุณเชื่อว่าอาชีพนี้เปลี่ยนสังคมได้
อาชีพนี้เป็นการผนวกศิลปะกับความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกันนะ ซึ่งมองให้ลึกลงไปอีก อาชีพนี้เป็นการเพ้อฝันนะ เพ้อฝันมากเลย มีพื้นที่ว่างๆอยู่เราจะเนรมิตอะไรมันขึ้นมาตรงนั้น อาชีพสถาปนิกเป็นอาชีพที่เปลี่ยนสังคมเปลี่ยนวัฒนธรรมได้ เวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศเราไปดูอะไร เราไปดูสถานที่ต่างๆของเขาใช่ปะ นอกจากช้อปปิ้งแล้วก็ไปดูความอลังการของอาคารสถานที่ต่างๆ แล้วใครทำล่ะ ก็คือสถาปนิก

๐ คุณมีเรื่องอยากฝากบอกถึงนายทุนด้วยใช่ไหม
สถาปนิกเป็นกลไกหนึ่งที่จะทำให้สังคมให้เมืองไทยมันดี แต่จริงๆมันอยู่ที่เจ้าของเงินมากกว่า เมื่อใดที่เจ้าของเงินมีทัศนคติมีวิชั่นมีมุมมองที่ดี ที่อยากทำให้งานของตัวเองหรือตึกของตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรม ถ้าคิดได้ตรงนี้จะดีมาก เพราะทุกวันนี้นายทุนที่คิดจะสร้างงานไม่ค่อยคิด คิดแต่กำไรให้มากที่สุด กำไรนี่ดีไม่ได้อยากให้ทำแล้วขาดทุน แต่การทำกำไรไม่ใช่ตะบี้ตะบันกำไรมันอย่างเดียวแล้วพอไม่สนใจอะไรแล้ว
o
การที่คุณขายคอนโดห้องแถวอะไรก็ตามยังไม่มีการคิดถึงว่าของเราจะเป็นหนึ่งในอารยธรรมของประเทศเลย แล้วเงินมันมหาศาลอ่ะ ลงทุนกันเป็นพันๆล้าน แล้วถามว่าคุณให้อะไรกับผืนดินที่อยู่ตรงนั้น คุณให้อะไรกับอากาศที่ผ่านตัวตึกคุณบ้าง ให้อะไร ก็ไม่ได้ให้อะไร คุณทำห้องให้มันสวย ทำฟังค์ชั่นให้คนซื้อเก็งกำไรได้ เลือกโลเคชั่นให้มันดีก็คิดอยู่แถวๆแค่นี้เอง แต่ลืมไปเลยว่าแล้วตัวตึกข้างนอกที่เห็นง่ายที่สุดให้อะไรกับคนไทยหรือใครก็ตามที่มาเห็นตึกคุณ สวยก็คือสวยที่ขายได้ ปล่อยง่ายใช่มั้ย สวยในแบบที่ถูกที่สุด
o
ก็อยากจะบอกนายทุนที่จะลงทุนอะไรก็ตามที่คนจะเห็นมันเยอะ เพราะอย่าลืมว่าความสำคัญของตึกอย่างหนึ่งก็คือคนเห็นมันเยอะ คิดง่ายๆตึกในเมืองหลวงคนเห็นกี่คน อีกสิบปีคนเห็นตึกคุณกี่คนล่ะ ก็น่าจะทุ่มเทความคิดให้กับความงามเยอะๆ ถ้าอันไหนที่คนไม่เห็นเลยไปตั้งอยู่ในป่าอันนั้นก็เรื่องของคุณ เหมือนฟังเพลงถ้าคุณฟังในห้องในรถใส่หูฟังได้ยินคนเดียวจะเปิดเพลงแนวไหนก็ได้ตามใจคุณ แต่ถ้าต้องไปเปิดเพลงในที่มีคนได้ยินเยอะๆ มันควรจะเป็นเพลงแนวไหนยังไงถึงจะเหมาะ
o
๐ กรุงเทพฯ ของเราสวยไหม
กลางคืนสวย (หัวเราะ) เอาเป็นว่าถ้าเป็นการคุยกันสนุกๆผมก็จะบอกว่า พี่ไม่ได้อะไรจากเมืองหลวงนี้ คนอื่นอาจจะได้ แต่พี่มองไม่ค่อยเห็นช่วยบอกหน่อยละกัน ตอนนี้ไม่ค่อยมีตึกที่ถ่ายงานแล้วก็ อู้หู ว้าว ไม่มี จะมีก็แต่อินทีเรียร์เรื่องนี้บ้านเราเก่งนะ โอเคเลย ข้างในเก่งแต่ข้างนอกไม่ค่อยโดน หาน้อยที่ผ่านแล้วจะหยุดถ่ายรูป
o
o
4 ผลงานจาก VANGUARD ARCHITECTS CO., LTD
1) โรงเรียนอนุบาลอุ่นรัก เกาะสมุย สร้างเสร็จเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้แรงบัลดาลใจจากริมทะเลและสัตว์น้ำ เรานึกถึงเด็กเล็กๆเวลาเขานึกถึงปลาดาวหอยเขาจะนึกออกเป็นรูปทรง เราก็เลยอยากสร้างโรงเรียนที่เป็นรูปทรงจากสัตว์ทะเลต่างๆ อยู่ที่เกาะสมุย เสร็จเมื่อสองปีที่แล้วเปิดสอนชั้น ป.1 ถึง ป.6 มีตึกหนึ่งจะคล้ายๆฟองน้ำก็เปรียบเหมือนการดูดซึมความรู้ต่างๆ

2) Art On Wall, Marine Parade Road, SingaporeCompleted 1998 , International Competition, First Prized Awardงานนี้เป็น Community Club Center อาคารศูนย์รวมกิจกรรมที่สิงคโปร์ ให้ทุกคนมาเอนจอยกับตึกนี้ มีห้องสมุด มีร้านกาแฟ มีลานกีฬา โรงยิม อะไรต่างๆรวมอยู่ในตึกนี้ แนวคิดการออกแบบนึกถึงการหล่อหลอมเอาทุกวัฒนธรรมมารวมกันเป็นเกลียว ทำร่วมกับสถาปนิกสิงคโปร์เมื่อปี 1998 เพราะการทำงานต่างประเทศเราต้องทำงานร่วมกับคนท้องถิ่นเพื่อเซ็นอนุญาตต่างๆ ก็มีบินไปดู คนไปใช้เยอะเลย

3) West Kowloon Cultural District ,West Kowloon, Hong Kong Design 2001 International Competitionออกแบบโครงสร้างผังเมืองประเทศฮ่องกงเมื่อ 5 ปีที่แล้วเราเสนอ Proposal ไปแข่งกับสถาปนิกทั่วโลก แล้วก็เข้าตากรรมการทั้งที่เขาไม่รู้จักเราเลย จนมาปีนี้ มีอีกฝั่งหนึ่งให้ทำก็เลยมาเชิญเราเข้าไปร่วมด้วย

4) ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครแบบที่ชนะเลิศการประกวด แต่ไม่ได้สร้างจริงเพราะคณะกรรมการบอกว่าอายุผู้ออกแบบน้อยไป(ในตอนนั้นคุณนิคอายุ 27 ปี)จึงหาผู้ออกแบบใหม่ (ROBERT G.BOUGHEY AND ASSOCIATES CO., LTD. – Architects and Planners คือบริษัทที่รับช่วงต่อ) และทำการปรับแบบจนได้ออกมาเป็นแบบที่ใช้สร้างจริงในปัจจุบัน
o
จริงๆแล้ว อาชีพ เปลี่ยนสังคม หรือ (คน)ในอาชีพ นั้นๆ เปลี่ยนสังคม กันแน่ พี่น้องชาวหัวหิน ว่าไง..สวัสดี
o
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.247freemag.com
huahinhub Thanks
o

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น