6.20.2552

| สร้างสรรค์วัฒนธรรม และสังคมเมือง ๑๒๕ (น้ำใจในการแข่งขัน)

"แพ้-ชนะ"สำคัญที่(น้ำ)ใจ
ความที่การแข่งขันกีฬาสมัยนี้เข้มข้นสูสี แถมยังมีปัจจัยเรื่องลาภยศชื่อเสียงและศักดิ์ศรีเป็นองค์ประกอบ บางครั้งทั้งคนแข่งขันและคนเชียร์ อาจเผลอไผลลืมไปว่าสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า "ชัยชนะ" ก็คือ "น้ำใจนักกีฬา""ดิ อ๊อบเซิร์ฟเวอร์" หนังสือพิมพ์เมืองผู้ดี เลยรวบรวม 10 เรื่องประทับใจ เพื่อย้ำเตือนไปในตัวว่า บางครั้งในโลกกีฬา ผลแพ้-ชนะก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดเสมอไปจริงๆ
ooo

1.ลุตซ์ ลอง - กระโดดไกล โอลิมปิคเกมส์ (ปี 1936)ต่อหน้า "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" ผู้นำเผด็จการนาซี ในการแข่งขัน "เบอร์ลินเกมส์" ที่ประเทศเยอรมนี ไม่ต้องสงสัยเลยว่า "ลุตซ์ ลอง" นักกระโดดไกลเจ้าถิ่นต้องแบกความคาดหวังและความกดดันใหญ่ยิ่งไว้ขนาดไหน แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อ "เจสซี่ โอเว่นส์" คู่แข่งคนสำคัญจากสหรัฐ โดนกรรมการจับฟาวล์ถึง 2 ครั้งในรอบคัดเลือก (โดยไม่แน่ว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่) ลองก็ออกหน้าบอกให้กรรมการวัดระยะวางเท้าของโอเว่นส์ใหม่ ท้ายที่สุด โอเว่นส์คว้าเหรียญทอง ส่วนลองคว้าเหรียญเงิน และแชมป์ชาวอเมริกันให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์นั้นในภายหลังว่า "ต่อให้เอาเหรียญรางวัลหรือถ้วยแชมป์ทั้งหมดที่ผมทำได้มาหลอมรวมกัน ก็คงมีค่าไม่เท่ากับมิตรภาพ 24 กะรัตที่ผมได้รับจากลุตซ์ ลอง ในคราวนั้นหรอกครับ"

ooo
2.แจ๊ค นิคคลอส - ไรเดอร์คัพ (ปี 1969)ในศึกกอล์ฟประเพณีปีที่เข้มข้นที่สุดครั้งหนึ่งของยุค "โทนี่ แจ๊คลิน" โปรกอล์ฟอังกฤษซึ่งออกรอบกับ "เจ้าหมีทอง" ยอดโปรอเมริกัน โดนกดดันว่าต้องพัตต์ระยะ 2 ฟุต บนกรีนหลุมสุดท้ายให้ลงเพื่อตีเสมอในประเภทเดี่ยวและไม่ปล่อยให้ถ้วยแชมป์ตกเป็นของสหรัฐ ในสถานการณ์ที่กดดันและตึงเครียดอย่างที่สุด นิคคลอสกลับทำให้ทุกคนประหลาดใจด้วยการหยิบลูกของแจ๊คลินขึ้นมาให้ถือว่าเขาพัตต์ลงโดยไม่ต้องออกแรง โดยให้เหตุผลสั้นๆ ว่า "ผมคิดว่าคุณคงพัตต์ไม่พลาดหรอก แต่ในสถานการณ์อย่างนี้ ผมจะไม่ยอมให้ (ความผิดพลาด) เกิดขึ้นแน่นอน" ปรากฏว่าไรเดอร์คัพปีนั้นลงเอยด้วยการเสมอ 16-16 คะแนน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และสหรัฐ แชมป์เก่า ได้ครองถ้วยต่อ แต่กลับมีเพื่อนร่วมทีมบางคนไม่พอใจน้ำใจของนิคคลอสสักเท่าไรนัก
ooo

3.แอนดรูว์ ฟลินทอฟฟ์ - ดิ แอชเชส (ปี 2005)ศึกคริคเกตประจำปีระหว่างอังกฤษกับออสเตรเลียที่เมืองเบอร์มิงแฮมลงเอยด้วยชัยชนะของทีมเมืองผู้ดีแบบฉิวเฉียดชนิดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ ขณะที่นักกีฬาและแฟนๆ เจ้าถิ่นกำลังฉลองชัยกันอย่างลิงโลด ณ มุมหนึ่งของสนาม "เบร็ตต์ ลี" ผู้ตีทีมออสเตรเลียที่นอกจากจะเจ็บปวดจากความพ่ายแพ้แล้วยังโดนเพื่อนร่วมทีมกระหน่ำด่าอย่างไม่ไว้หน้าได้แต่นั่งยองๆ ในสภาพหมดอาลัยตายอยาก "แอนดรูว์ ฟลินทอฟฟ์" สตาร์ทีมอังกฤษเหลือบมาเห็นพอดี จึงรีบผละจากฝูงชนเข้าไปหาลี นั่งลงเคียงข้าง จับมือ ตบบ่า และปลอบโยนอย่างจริงใจ จนกลายเป็นภาพประทับใจประจำการแข่งขันที่ไม่มีใครลืมเลือน

ooo
4.จอห์น แลนดี้ - วิ่ง 1,500 เมตร ชิงแชมป์ออสเตรเลีย (ปี 1956)ทั้งที่ "จอห์น แลนดี้" นักกรีฑาแดนจิงโจ้ มีโอกาสสูงที่จะทำลายสถิติโลกวิ่งระยะทาง 1 ไมล์ ลงได้ในการแข่งขันคราวนั้น แต่เมื่อ "รอน คลาร์ก" คู่แข่งซึ่งวิ่งนำอยู่ลื่นล้มจนโดนคนอื่นๆ แซงไปหมด แลนดี้กลับหยุดวิ่ง หันมาพยุงคลาร์กให้ลุกขึ้น แล้วกลับไปแข่งต่อ ซึ่งที่สุดแล้วเขาก็คว้าแชมป์มาได้ และทำเวลาแย่กว่าสถิติโลกเพียง 6 วินาทีเท่านั้น
ooo
5.สเตอร์ลิ่ง มอส - โปรตุเกส กรังด์ปรีซ์ (ปี 1958)ในการแข่งขันโปรตุเกส กรังด์ปรีซ์ เนื่องจาก "ไมก์ ฮอว์ธอร์น" คู่แข่งคนสำคัญของยอดนักแข่งรถฟอร์มูล่าวันชาวอังกฤษทำท่าจะโดนตัดแต้มที่ทำรถหมุนหลุดจากเส้นทาง แต่มอสซึ่งเห็นเหตุการณ์โดยตลอดแจ้งกับกรรมการว่า ฮอว์ธอร์นไม่ได้ทำผิดกฎแต่อย่างใด ผลก็คือไม่มีการตัดแต้มเกิดขึ้น และฮอว์ธอร์นคว้าแชมป์โลกในปีนั้นโดยมีคะแนนเฉือนมอส (ซึ่งเฉียดตำแหน่งแชมป์โลกที่สุดในปีนั้น) เพียงแต้มเดียวเท่านั้น
ฟลินทอฟฟ์ (ขวา) ปลอบคู่แข่ง
ooo
ooo
6.เปาโล ดิ คานิโอ - พรีเมียร์ลีก (ปี 2000)เมื่อครั้งค้าแข้งอยู่กับ "เวสต์แฮม" นักเตะแบ๊ดบอยรายนี้เคยทำให้หลายคนต้องอึ้งไปไม่น้อยในการลงสนามกับ "เอฟเวอร์ตัน" ในเดือนธันวาคมปีนั้น โดยขณะที่สองฝ่ายเสมอกัน 1-1 และเกมล่วงเลยเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เพื่อนก็เปิดบอลจากทางฝั่งขวาให้ดิ คานิโอ ที่มีโอกาสซัดโล่งๆ เนื่องจากไม่มีใครเฝ้าเสา แต่แทนที่เขาจะทำในสิ่งที่นักเตะพรีเมียร์เกินครึ่งน่าจะทำ ดิ คานิโอ กลับรับบอลเอาไว้และหยุดเล่น เนื่องจากเห็นว่า "พอล เจอร์ราร์ด" นายทวารคู่ต่อสู้กำลังนอนเจ็บอยู่ และเกมนั้นก็ลงเอยด้วยการเสมอ 1-1 ในที่สุดoo
oooo
7.มาร์ก เทย์เลอร์ - เทสต์ (ปี 1998)ย้อนไปในการแข่งขัน "เทสต์" เมื่อปี 1998 ที่ประเทศปากีสถาน "มาร์ก เทย์เลอร์" กัปตันทีมคริคเกตทีมชาติออสเตรเลีย สามารถทำสถิติการตีได้เทียบเท่าสถิติสูงสุดของการแข่งขัน หนำซ้ำยังมีโอกาสลุ้นทำลายสถิติโลกที่ "ไบรอัน ลาร่า" ผู้เล่นเวสต์อินดีสเคยทำไว้อีกต่างหาก ทั้งสื่อ เพื่อนร่วมทีม และแฟนๆ ต่างก็เชียร์ให้เขาทำให้สำเร็จ แต่แล้วเทย์เลอร์กลับตัดสินใจให้ยุติการแข่งขันรอบนั้นเสีย เพราะแทนที่จะปล่อยให้แข่งยืดเยื้อเพื่อที่ตัวเองจะได้ลุ้นสถิติการขึ้นรอบใหม่น่าจะช่วยให้ออสเตรเลียมีโอกาสลุ้นชัยชนะมากกว่า ปรากฏว่าแมตช์นั้นลงเอยด้วยผลเสมอ และเมื่อรวมผลตลอดทั้งเทสต์ ซีรีส์แล้วออสเตรเลียก็ได้แชมป์ปีนั้นไปครอง
oooo
8.จูดี้ กินเนส - ฟันดาบ โอลิมปิคเกมส์ (ปี 1932)ด้วยวัยเพียง 21 ปี "จูดี้ กินเนส" กำลังจะกลายเป็นนักกีฬาจากสหราชอาณาจักรคนแรกที่คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันฟันดาบในโอลิมปิคเกมส์ที่ลอสแองเจลิส และเธอก็เกือบจะขึ้นแท่นรับเหรียญทองจริงๆ เมื่อกรรมการตัดสินให้กินเนสเป็นผู้ชนะในการดวลรอบชิงชนะเลิศกับ "เอลเลน ไพรส์" ของออสเตรเลีย แต่แล้วเธอกลับหันไปบอกว่า กรรมการไม่ทันได้เห็นแต้มที่ไพรส์แทงถูก 2 ครั้ง จึงกลายเป็นว่าเหรียญทองตกเป็นของไพรส์แทน
000
9.บ๊อบบี้ โจนส์ - ยูเอส โอเพ่น (ปี 1925)ตำนานกอล์ฟชาวอเมริกันเคยสร้างผลงานสุดยอดคว้าแชมป์เมเจอร์ 13 รายการ ระหว่างปี 1923-1930 และปริ่มๆ จะบวกเพิ่มได้อีก 1 รายการในศึกยูเอส โอเพ่น เมื่อปี 1925 ซึ่งเขาพลาดแชมป์ไปเพียงสโตรกเดียว โดยในการแข่งขันรอบแรกของรายการนั้น โจนส์ไดรฟ์ลูกที่หลุม 10 ไปตกในรัฟ จังหวะที่จรดไม้เตรียมหวดช็อตถัดไป เขาพลาดทำลูกขยับเล็กน้อย แต่ทั้งๆ ที่ไม่มีใครเห็น โจนส์ผู้ซื่อสัตย์ก็ยอมรับกับกรรมการและขอให้ตัวเองโดนลงโทษปรับ 1 สโตรก ซึ่งเป็น 1 สโตรกที่ทำให้เขาพลาดแชมป์ในปีนั้นเอง ต่อมามีคนหยิบยกเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้นมาชื่นชม ซึ่งโจนส์ตอบอย่างน่าฟังว่า "(ถ้าผมถูกชมด้วยเหตุผลนี้) คุณก็คงต้องชื่นชมใครต่อใครที่ไม่คิด (แหกกฎหมาย) ไปปล้นธนาคารแล้วล่ะ"
ooo
10.ไอรีน ทิดบอล - ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก (ปี 2008)เรื่องนี้ไม่ใช่ "น้ำใจนักกีฬา" โดยตรง แต่ก็เป็น "น้ำใจ" ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับ "กีฬา" ที่น่ายกย่องชื่นชมขนาดไม่กล่าวถึงไม่ได้จริงๆ เพราะเมื่อปีที่แล้ว "กวีลิม รีส" ลูกเขยของคุณยายคนนี้ตั้งใจจะเดินทางจากคาร์ดิฟฟ์ไปยังเมืองมึนเช่นกลัดบัก เพื่อเชียร์ทีมรักลงสนามพบกับเจ้าภาพ เยอรมนี แต่แล้วกลับไปขึ้นรถบัสของกองเชียร์ที่เตรียมไว้ไม่ทัน เมื่อทราบดังนั้น คุณยายไอรีนวัย 73 ปี ก็ทิ้งทุกอย่างที่ทำอยู่ ขับรถคู่ใจพาลูกเขยเดินทางข้ามประเทศเป็นระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร เพื่อเชียร์ทีมชาติเวลส์อย่างที่ตั้งใจไว้ใครชอบบอกว่าแม่ยายใจร้ายขี้บ่น คงต้องเว้นคุณยายคนนี้ไว้คนนึงล่ะ!!
o
ขอบคุณข้อมูลจาก มติชนออนไลน์
huahinhub Thankso
o

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น