6.15.2552

| เชื่อมโยงธุรกิจ ๑๙ (DOGO ดีไซน์อุปกรณ์แต่งสวน)




o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
‘DOGO’ เติมสีสันงานแต่งสวน พลิกโฉมอุปกรณ์รวยดีไซน์

‘ทำไมอุปกรณ์ปลูกต้นไม้ หรือแต่งสวน ต้องจำกัดเฉพาะรูปแบบเดิมๆ ทั้งที่วัตถุประสงค์การใช้งานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน’ คำถามที่เกิดขึ้นดังกล่าว กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มอย่าง “อภิชาต ปิยะสกุลชัยชาญ” กล้าจะนอกกรอบ สร้างสรรค์อุปกรณ์ทำสวนรูปแบบใหม่ที่มากด้วยสีสันและดีไซน์ ภายใต้แบรนด์ “DOGO” ตอบความต้องการคนรุ่นใหม่ที่อยากทำสวนเพื่อเติมความสุขให้ชีวิต

“พ่อของผมเป็นคนรักการแต่งสวนบ้าน ผมก็จะช่วยพ่อมาตลอด แต่ทุกครั้งที่ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะจอบ เสียม พลั่ว ฯลฯ ก็จะรู้สึกว่า ทำไมอุปกรณ์ต้องเป็นชนิดเดียวกับที่เกษตรกรใช้กัน ซึ่งทั้งใหญ่และหนักมาก ทั้งที่วัตถุประสงค์การใช้งานไม่เหมือนกัน เราแค่อยากทำสวนในบ้านเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ทำเป็นมืออาชีพ ผมเลยคิดว่า อยากทำอุปกรณ์สวนที่มีดีไซน์ และใช้งานได้ดีเหมาะกับคนเมือง” อภิชาต เล่าถึงแรงบันดาลใจ

ส่วนตัวแล้ว หนุ่มคนนี้สำเร็จการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ซึ่งห่างไกลกับงานด้านศิลปะ หรือการออกแบบมาก ทว่า สิ่งสำคัญที่ช่วยให้สามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานต่างๆ ออกมาได้ จะอาศัยความชอบกับจินตนาการส่วนตัว ประกอบยึดหลักคิดว่า พยายามดูช่องว่างตลาดที่ขาดหายไปแล้วผลิตสินค้าเพื่อมาเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว อีกทั้ง สินค้าต้องออกมาแล้วแตกต่างและสวยสะดุดตา ประกอบกับสอดคล้องกับกระแสตลาด และใช้งานได้จริง

อภิชาต เริ่มต้นธุรกิจ เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ด้วยวัยเพียง 24 ปี ประเดิมจากผลิตกระถางต้นไม้สังกะสีดีไซน์เก๋ๆ ซึ่งออกแบบเอง แล้วให้โรงงานสังกะสีช่วยผลิต โดยเปิดตัวสินค้าในงานแสดงสินค้าของขวัญเพื่อการส่งออก หรือ BIG (Bangkok International Gift) ทันที ซึ่งถือเป็นก้าวที่กล้า และเสี่ยงอย่างยิ่ง ทว่า การเสี่ยงดังกล่าว ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และคุ้มค่า

“ผมใช้เงินลงทุนประมาณ 2-3 แสนบาท สำหรับเป็นทุนผลิตสินค้า และเช่าพื้นที่ออกบูทในงาน BIG เลย โดยไม่เคยทำตลาด หรือมีหน้าร้านมาก่อน ซึ่งถือว่าเสี่ยงมาก แต่เพราะผมค่อนข้างมั่นใจในตัวสินค้าว่า มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งผลตอบรับก็ดีอย่างที่หวัง ได้ออเดอร์ลูกค้าต่างชาติจากการออกบูทครั้งแรกเลย จากนั้น เราก็ขยายตลาดและขยับเพิ่มสินค้าตัวอื่นๆ ตามออกมา” เจ้าของธุรกิจระบุ

นับจากจุดนั้นถึงปัจจุบัน อุปกรณ์แต่งสวนเพื่อคนรุ่นใหม่ แบรนด์ DOGO มีทั้งหมด 8 หมวด รวมสินค้ากว่า 70 รายการ ด้านตลาดสามารถส่งออกไปทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ ยุโรป แคนาดา ญี่ปุ่น เป็นต้น มีผลประกอบการเมื่อปีที่แล้ว (2551) กว่าแปดหลัก สัดส่วนมาจากส่งออก 90% ส่วนในประเทศเพียง 10% กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นคนเมืองที่รักการทำสวนในบ้านเป็นงานอดิเรก อายุ 35 ปีเป็นต้นไป

อภิชาต ระบุว่า จุดเด่นของสินค้า DOGO อยู่ที่ดีไซน์แปลกตา สีสันสดใส อีกทั้ง จัดเป็นชุดสะดวกต่อการใช้งาน และแม้รูปทรงแปลกตา แต่ทั้งหมดใช้งานได้จริง วัตถุดิบหลักที่ใช้ผลิต ได้แก่ เหล็ก พลาสติก เซรามิก และผ้า เป็นต้น สำหรับราคาสินค้า เริ่มต้นที่ 30 บาทถึงสูงสุด 1,200 บาท หากเทียบกับอุปกรณ์ทำสวนที่ขายในท้องตลาดทั่วไป สินค้า DOGO ราคาจะสูงกว่าเกือบ 50% อย่างไรก็ตาม ลูกค้ายอมที่จ่ายแพงกว่า เพื่อแลกกับดีไซน์แตกต่าง และความสุขที่ได้รับจากการได้ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

“ผมเชื่อว่า สำหรับคนที่รักการแต่งสวน คนสุขจริงๆ คือ การได้ลงมือทำด้วยตัวเอง ดังนั้น สินค้าของผม จะไม่ใช่แค่ขายอุปกรณ์ทำสวนเท่านั้น แต่เราขายดีไซน์แห่งความสุข ให้คนที่รักการทำสวนอยู่แล้วเกิดความสุขและสนุกเมื่อใช้เครื่องมือเหล่านี้ลงมือทำสวนด้วยตัวเอง” เจ้าของไอเดีย เผย

แนวคิดการพัฒนาสินค้ายังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เนื่องจากมองตลาดว่า กิจกรรมการทำสวนหรือปลูกต้นไม้ ถือเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่สมาชิกในครอบครัวจะใช้เวลาร่วมกัน อีกทั้ง หากให้เด็กๆ อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ จะช่วยให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ดังนั้น การพัฒนาสินค้าในระยะหลัง จะเน้นชุดกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ ได้ลงมือทำร่วมกับผู้ปกครอง เช่น ชุดปลูกต้นไม้สำหรับเด็ก หรืออุปกรณ์ทำสวนสำหรับเด็ก เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาดหลัก คือ การส่งออกต่างประเทศ เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แน่นอนว่า ธุรกิจรายนี้ ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย อภิชาต ยอมรับว่า เริ่มได้รับผลกระทบรุนแรงตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (2551) โดยรายได้ลดลงจากเดิมเกือบ 50% ลูกค้าทั้งชะลอการซื้อ และยกเลิกคำสั่งซื้อ ดังนั้น พยายามปรับตัวให้รอดจากวิกฤตครั้งนี้ โดยเน้นไปที่การลดต้นทุนการตลาด จากเดิมจะไปออกงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศปีละ 6 ครั้ง ปรับมาลดเหลือปีละ 2 ครั้งเท่านั้น อีกทั้ง ชะลอการขยายกำลังผลิต เพื่อรอให้ตลาดมีแนวโน้มดีขึ้นเสียก่อน นอกจากนั้น หันมาเน้นทำตลาดภายในประเทศเพิ่มขึ้น เช่น รับผลิตเป็นสินค้าพรีเมี่ยมให้แก่องค์กรต่างๆ รวมถึง ผลิตสินค้าเป็นของที่ระลึกสอดคล้องกับกระแสช่วยโลกร้อน เป็นต้น

จากจุดเล็กๆ ที่เกิดคำถามขึ้นในใจ ทุกวันนี้ คนหนุ่มรายนี้ได้เปลี่ยนคำถามดังกล่าว ให้กลายเป็นสินค้าที่มีผู้ใช้บริการแทบทุกมุมโลก แม้ว่า วันข้างหน้าเส้นทางธุรกิจยังคงมีอุปสรรคอีกมาก แต่ความสำเร็จที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นว่า หากมีความคิดดีจริง และกล้าลงมือทำ โอกาสจะก้าวเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จยังมีอยู่เสมอ
พี่น้องชาวหัวหินที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่ โทร.0-2312-4017
o
ขอบคุณข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์
huahinhub Thanks
o

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น