6.12.2552

| กระตุ้นความคิด ด้วยไอเดีย ๑๑๗ (หลายหน้าที่ หลายวิถี หลายความสามารถ)







"หลายคนบอกว่าทำไมไม่ไปแสดงละครหรือทำงานในแวดวงบันเทิง เก็บเงินสักก้อนหนึ่ง แล้วค่อยมาทำแบบที่ตัวเองฝัน
o
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราจะมีเวลาอีกเท่าไหร่ในการใช้ชีวิตอยู่ ในโลกใบนี้ มีโอกาสทำไมเราไม่ทำ ในเมื่อมันคือสิ่งที่เรารัก เราชอบ ทำไมเราต้องไปทำอย่างอื่นก่อน ชีวิตทุกวันนี้บอกทุกคนว่าเป็นอะไรขึ้นมา ตายก็ไม่เสียใจแล้ว เมื่อได้ทำอาชีพที่รักแล้ว..."
o
นี่คือคำพูดที่นางงาม นักยิงปืน ครีเอทีฟ ผู้ประกาศข่าว และหมวกใบสุดท้ายในอาชีพที่ภูมิใจที่สุดอาจารย์แสนสวยชื่อ “นิ้น สลิลาทิพย์ ทิพยไกรศร” อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอในเวทีการประกวดนางสาวไทย ปี 2549 (รุ่นเดียวกับเจี๊ยบ ลลนา)
o
จากชีวิตเด็กชลบุรี สอบได้ทุนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในขณะเดียวกันหน้าหวานแต่ใจรักการยิงปืน จึงทำให้เธอฝึกฝนจนติดทีมชาติ จากนั้นได้ทุนเรียนปริญญาโท จบเกียรตินิยมเหรียญทอง ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จนพลิกผันมาเป็นอาจารย์ และหวังจะเรียนปริญญาเอกอีกหนึ่งใบในอนาคต "นิ้นเป็นนักศึกษาในโครงการเรียนดี และนักศึกษาทุน นักกีฬายิงปืนทีมชาติ ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 3 ปืนยาวทุกประเภทเลยค่ะขึ้นลงเชียงใหม่มาคัดตัวที่กรุงเทพ จากนั้นปริญญาโทก็จบบริหารธุรกิจการตลาดก็ได้ทุนของม.กรุงเทพ ที่เรียนมาเนี่ยยังไม่ได้เสียตังค์เลย (ยิ้ม) ไม่ใช่คนเรียนดีมาก เป็นคนเรียนธรรมดาแต่แบบว่าตั้งใจเวลาจะสอบตั้งใจเป็นพิเศษ กิจกรรมทำทุกอย่างตอนที่ได้ตำแหน่งรองนางสาวไทยปี 2549 มีคนมาถามว่าเราเป็นนักกีฬาเหรอ ดูขัดมาก เป็นจริงหรือเปล่า "
o
สาววัย ย่าง 26 บอกประวัติตัวเองอย่างอารมณ์ดี จากตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 นางสาวไทยปีที่เธอประกวด เจ้าตัวบอกเพียงว่าการก้าวเข้ามาเป็นนางงาม คือความฝันของผู้หญิงทุกคน แต่อาชีพที่ได้ทำกลับเป็นครีเอทีฟ แต่เมื่อเธอคนนี้ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นอาจารย์ในรั้วมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน เธอบอกกับเราว่า นี่คืออาชีพที่ทำแล้วรักมากที่สุด "นิ้นเป็นมาหลายอย่าง ชอบที่สุดคงจะเป็นอาจารย์มากกว่าแล้วก็รู้สึกว่ามันคือตัวเองมากที่สุด ตอนที่จะตัดสินใจเป็นอาจารย์เนี่ย ประกวดนางงามก็สูงสุดแล้วในชีวิต มันพอแล้ว ถามตัวเองว่าพอแล้วมั้ยในชีวิต ได้โอกาสจากคนอื่นมามาก อยากทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง พอดีว่าม.กรุงเทพเนี่ย ถามว่าอยากเป็นอาจารย์มั้ย แม่ก็เป็นผอ.โรงเรียนที่ชลบุรี เรามีพี่สาวน้องสาว เป็นลูกสาวสามใบเถา เราคนกลาง เราก็ทำทุกที่เราอยากทำ ครอบครัวนิ้นน้อมรับการตัดสินใจเสมอ"
o
"ชอบการเป็นอาจารย์ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มสอน มาถึงตอนนี้ปีครึ่งแล้ว เราโชคดี เจออาชีพที่รักตั้งแต่อายุ 25 ใครไม่เป็นเราไม่รู้หรอกว่ามันมีความสุขอย่างไร อาชีพนี้มันอยู่ที่ความศรัทธาของคน เราเองก็อายุยังน้อยมันก็เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ในขณะที่เราประกอบอาชีพ เราก็ได้ให้โอกาสสังคม และได้เจอเด็กที่ดีด้วย" อาจารย์มือใหม่บอกกับเราว่าการสอนของเธอไม่ใช่เชิงทฤษฎี แต่ใช้วิธีการเคยสนใจเรียนอย่างไรก็จะสอนเด็กของเธออย่างนั้น
o
"จบคลาสทุกๆ เทอมจะขอบคุณเด็กที่เหมือนว่าเขาตั้งใจ ทำให้เราคงมุ่งมั่น และรักในอาชีพนี้ เด็กเราตั้งใจเรียนดีค่ะ เราเองก็คิดเอาว่าถ้าเราเป็นเด็กเราอยากได้อาจารย์แบบไหน เราอยากเรียนแบบไหน เราคงไม่อยากเรียนทฤษฎีแบบ 1 2 3 4 5 เราสอนหน้าห้องเราต้องถามตัวเองแทนเด็กว่าเวลาเราสอนเราอยากได้อะไรจากอาจารย์คนนี้ เรื่องเกรดนิ้นเป็นอาจารย์ที่ใจดีมาก ถ้าเด็กเข้าสายจะถามตัวเองว่าสอนอย่างไรเด็กถึงไม่อยากเรียน แต่ว่าไม่มีนะคะ"
o
เธอบอกกับเราว่านอกจากสอนแล้วสิ่งหนึ่งที่อาจารย์ต้องทำคือ ดึงศักยภาพของเด็กออกมาให้ได้ และเล่าว่าโดนแซวเหมือนกันว่าอาจารย์สวยๆแบบนี้มาสอนหนังสือด้วยหรือ "หน้าที่อย่างหนึ่งของอาจารย์นิ้นคิดว่า มันคือการดึงศักยภาพของตัวเขาออกมา นิ้นทุ่มเทกับอาชีพนี้พยายามจะคุยกับเด็ก ถามเขาว่าที่เขาเรียนมา 1 เทอมเขาเข้าใจมั้ย เรื่องที่เขาควรรู้เขารู้หรือเปล่า แล้วถ้าเขาไม่เข้าใจนั่นแปลว่าเราเองก็ผิดถ่ายทอดไม่ดี เราก็ต้องปรับ (หัวเราะ) การตลาดมันคืออยู่รอบตัวเราอยู่แล้ว ก็ยกตัวอย่างที่อยู่ใกล้ตัว สินค้าที่เขาได้ใช้ได้เห็นเอากิจกรรมเขาไปทำ ก็ทำให้เขาเรียนรู้ กิจกรรมก็พยายามเอามาสอดแทรกกับเนื้อหา เด็กยุคนี้อะไรก็ตามที่ให้เข้าคิดเองเขาจะจำนะ"
o
จากการสอนที่ให้เด็กทำกิจกรรมเอง ทำให้เสียงตอบรับจากการสอนของเธอ โดนใจวัยโจ๋ที่เธอสอนไม่น้อย "ระบบของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เขาจะมีประเมินผลอาจารย์แล้วให้เด็กคอมเมนต์ได้ เด็กคอมเมนต์ที่เรียนมาเรื่องเกม และกิจกรรมที่เราให้ทำ เขาชอบ จำได้ ก็สิ่งที่เขาทำออกมามันคือตัวสะท้อนว่าเขาชอบ สนใจและจำได้ อย่างวิชาหนึ่งเรื่องการค้าปลีก ต้องบอกว่ากล้วยนำไท ใกล้กับโลตัส คาร์ฟูร์ ให้เขาไปดูตลาดจริง ให้เขาแบ่งกลุ่ม มีโจทย์มีเกมให้เขาเล่น ไปหาสินค้าที่ต่ำที่สุด สูงที่สุด อะไรเขาได้ทำเองเขาจะรู้มากกว่าการยกตัวอย่างผ่านหูด้วยในบางครั้ง"
o
พอถามถึงความกังวล และความกดดัน อีกทั้งคำสบประมาท กับอาจารย์หน้าสวยคนนี้ของการเป็นครูในวันที่อายุยังน้อย เจ้าตัวบอกว่ามีบ้างสำหรับคำวิจารณ์ต่างๆนานา แต่ได้รุ่นพี่และเพื่อนอาจารย์ช่วยเหลืออย่างดี และภูมิใจที่ได้ตามรอยแม่ของเธอ ที่เป็นครูเช่นเดียวกัน "อาชีพนี้รายได้น้อย แต่ความสุขมีทุกวัน ได้ทำบุญทุกวัน เราได้ให้การศึกษามันยิ่งใหญ่มาก บอกกับตัวเองตลอดว่าอยากเป็นอาจารย์ อย่างอื่นคืออาชีพเสริมไป แม่ไม่ได้พูดอะไร แต่รู้ถึงความภูมิใจของเขา เจอเพื่อนแม่เขาจะบอกว่าแม่เล่าถึงว่าเราไปเป็นอาจารย์ เหมือนเขาเองก็ภูมิใจในตัวเรา"
o
ถามถึงระบบการศึกษาไทยกับคุณครูคนสวย เธอพูดไว้น่าฟังทีเดียว "ถามว่าน่าเป็นห่วงมั้ยก็น่าเป็นห่วง มีการแข่งขันกันเยอะขึ้น กลยุทธ์การตลาดเยอะ ลด แลก แจก แถมเยอะ นิ้น เองอยากให้มุ่งไปที่คุณภาพของนักศึกษาและการเรียนการสอนมากกว่า มากกว่าดึงนักศึกษาให้มาอยู่กับเราเยอะๆ เหมือนเรากำลังปลูกฝังพฤติกรรมของเขา ถ้าอยากจะเข้าที่นี่ ดูซิที่นี่มีอะไรให้บ้าง คิดแต่แบบนั้น" "สมัยนี้คนวัดความสำเร็จจากตัวเงิน คนเราพื้นฐานไม่เหมือนกัน บางคนอยากเป็นเหมือนคุณสรยุทธ อย่าอยากเป็นแบบใคร ให้วิเคราะห์ว่าเรามีอะไรบ้าง ที่เป็นจุดแข็งของเรา แล้วพัฒนาจุดแข็งแล้วก็แก้ไขจุดอ่อนให้เร็วที่สุด มองจากตัวเอง เด็กบางคนคิดเดินตามดารา ในการทำงานจริงๆคือ ทุกอย่างมีแค่หนึ่ง ไม่มีสอง ถ้าเราอยากเป็นอั้ม อั้มก็มีหนึ่งเดียว อั้มไม่สามารถมีหลายๆอั้มได้ เราไม่ถึงฝันแน่ถ้าเราลอกเลียนแบบเขา"
o
...นี่คือคำสอนของคุณครูยังสาวที่รักอาชีพนี้ชนิดที่เธอบอกกับ M-Lite ว่ า หากให้คะแนนเต็มความสุข100 เปอร์เซ็นต์เธอพูดสั้นๆปนรอยยิ้มว่า สุขหน้าชั้นเรียนขณะสอนของเธอ มีหน่วยถึง 200 เปอร์เซ็นต์ ทีเดียว ส่วนใครที่แอบคิดในใจว่าอาจารย์สาวสวยระดับนางงามคนนี้ มีคนรู้ใจหรือยัง เธอบอกกับเราแบบไม่ปิดว่ามีคนที่คบหาดูใจอยู่แล้ว เพราะในวันที่เหนื่อยล้าจากหน้าที่การงาน หลายๆอย่างที่เธอทำ จะมีใครสักคนหนึ่งที่ยืนเคียงข้างและบอกกับเธอว่า “ไม่เป็นไร” ก่อนจากกัน นิ้นทิ้งท้ายว่าชีวิตของเธอโดนมองว่าสวยหรูแต่เธอยืนยันกับเราว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายเลยแม้สักอย่างในชีวิต และทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดจากความพยายามทั้งสิ้น…
o
แง่คิดชีวิต "นิ้น" "นิ้นไม่รู้ว่าจะเป็นอาจารย์ ไปถึงเมื่อไหร่ เพราะคิดว่าจะเป็นตลอดไป ถ้าคิดว่าจะเป็นถึงเมื่อไหร่แปลว่าเราไม่ได้ชอบอาชีพนี้จริงๆนะ บางคนคิดว่าเข้ามาทำเพื่อ เอาประสบการณ์ เอาโปรไฟล์ ไม่ใช่นะคะ นี่แหละคือสิ่งที่เราค้นหา บางคนเจออาชีพที่ชอบตอน 40-50 แต่นิ้นว่านิ้นเจอตอน 25 โชคดีมากๆ"
o
ประวัติ สลิลาทิพย์ ทิพยไกรศร (นิ้น)
เกิด 12 กันยายน 2526 อายุ 25 ปี
ปริญญาตรี : ศศบ. สื่อสารมวลชน (โฆษณาและประชาสัมพันธ์ ) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ปริญญาโท : บธ.ม (การตลาด) นักศึกษาทุนและเกียรตินิยมเหรียญทอง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ประวัติการทำงาน อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ / มหาวิทยาลัยกรุงเทพ Creative / บริษัท คูเปอร์ ครีเอชั่น จำกัด นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย รองอันดับ 1 นางสาวไทย ปี 2549 ผู้ประกาศข่าวสถานี TNN 24 รายการ Economic Time 1 ในผู้เข้าแข่งขันรายการเกมกลยุทธ์ ปีแรก
o
ขอบคุณข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์ ภาพโดย ศิวกร เสนสอน
huahinhub Thanks
O

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น