6.08.2552

| หัวหินประดามี ๑๙ (คืนหัวหิน ถิ่น ปริศนา)



หวนคืนถิ่นหัวหิน ปริศนา. . . ตามหาท่านชายพจน์
เมื่อคิดคอนเซ็ปต์เก๋ๆ ให้คณะ สมาชิกสมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอคาเนย์แห่งประเทศไทย (สปอท.) ร่วมทำกิจกรรมประจำปี ด้วยการจัดทริปหวนคืนทะเลหัวหิน ดินแดนแสนโรแมนติก
จนต้องออกสำรวจพื้นที่จริงด้วยตัวเองมาพักใหญ่ ก็ได้เวลาหัวหน้าทริป สุพัฒนา อาทรไผท นายก สปอท. นำขบวนเพื่อนฝูงสตรีนักธุรกิจแถวหน้า ออกตระเวณ “รำลึกถึงอดีต... หัวหินถิ่นหรรษา” แบบเฮฮาสมวัย
ooo
ตั้งต้นกันที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ณ ชานชลาที่ 7 ที่คึกคักไปด้วยสตรีในชุดย้อนยุคที่พร้อมใจกันเรียกบรรยากาศเก่าๆ กลับคืน ขณะที่บุรุษก็ไม่หลุดคอนเซ็ปต์มาในชุดเสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็ค คาด Suspender (สายรั้งกางเกง) สวมหมวกในมาดเท่ ย้อนวัยสู่สมัยที่ตนยังหนุ่ม ก่อนจะร่วมขบวนรถไฟตู้ปรับอากาศพิเศษมุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟหัวหินอย่างครื้นเครง
oo
พอถึงปลายทาง นายกเทศมนตรีเมืองหัวหินพร้อมคณะรถม้า สามล้อ และรถกอล์ฟที่ตกแต่งสวยงาม ก็ตั้งขบวนรอรับอย่างเอิกเกริก แม้จะมีอุปสรรคจากสายฝนอยู่บ้าง แต่ว่าที่ปริศนา สาวงามรุ่นใหญ่จากเมืองกรุง ก็ไม่ลืมทำหน้าที่ นั่งยิ้มสวยร่วมขบวนต้อนรับไปตลอดเส้นทางจนถึง โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน หรือ โรงแรมรถไฟ (ในอดีต) เอกลักษณ์คู่ริมหาดหัวหินมาช้านาน
oo
ทันทีที่งานเลี้ยงยามพลบค่ำเริ่มขึ้น ทุกคนก็ได้ร่วมบรรยากาศย้อนยุคกับการแสดงในชุดต่างๆ ซึ่งมีไฮไลต์อยู่ที่การครวญเพลงเก่า อาทิ เพลง “ลอยลำพร่ำรัก” ของ กัปตันเสวี-สุนันท์ โรจนธรรม, เพลง “หัวหินสิ้นมนต์รัก” จาก พล.อ.นิพนธ์ สีตะบุตร,ดร.พาชื่น รอดโพธิ์ทอง ในบทเพลง “ทะเลไม่เคยหลับ” และ เพลง Moonlight Swim ที่ชวนให้ทุกคนเคลิบเคลิ้มหวนคิดถึงวันคืนเก่าๆ จากนั้นถึงช่วงเฟ้นหาปริศนาทั้ง 10 เพื่อออกตามหาท่านชายพจน์ เกณฑ์พิจารณามีอยู่ง่ายๆ สาวไหนแต่งกายได้เข้าตากรรมการก็ต้องขึ้นเวทีโชว์กึ๋น ร่วมตอบคำถามเกี่ยวกับหัวหินในทุกรูปแบบ
ooo
แต่ระดับสาวสวยดีกรีปริศนา(รุ่นใหญ่) อย่าง อรษา บุญศรี, จรินทร์ สุมานนท์, ภัทรพร หิรัญบุณยสฤษดิ์,ศรีสุภางค์ มอริส,วี มาร์,ภารณี จิตรกร,ปิยดา นราดุลยฺ์,ดร.ชมนาถ รัตนมณี ฯลฯ รับรองไม่ผิดหวัง ผ่านฉลุยตอบถูกทุกคำถาม ส่วนภารกิจตามล่าหาท่านชายก็หายห่วง ใช้เวลาเพียงไม่นานนักทั้งชายพจน์และปริศนาก็ควงแขนออกมาเป็นคู่ๆ และต่างมอบดอกไม้ให้กันด้วยความคุ้นเคย
ooo
ด้านความทรงจำถึงหัวหินในอดีตของ ม.ร.ว. ชาญวุฒิ วรวรรณ ที่มาพร้อม ดร. คุณหญิงกษมา วรวรรณ ภริยา ก็น่าสนใจไม่น้อย คุณชายย้อนเล่าว่า บรรยากาศของหัวหินเมื่อก่อนยังเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกล แต่กลับเป็นสถานที่ตากอากาศที่เพื่อนฝูง ครอบครัวชาวกรุงเทพฯ นิยมมาพักผ่อนช่วงวันหยุด มีชายหาดที่เป็นเหมือนห้องรับแขกขนาดใหญ่ พอตกเย็นทุกคนก็ลงมาพบปะสังสรรค์ เดินเล่นลัดเลาะไปตามชายหาดไกลจนถึงเขาตะเกียบ ส่วนตอนกลางคืน เด็กๆ ก็ชอบลงไปจับปูลม ขณะที่ผู้ใหญ่ก็มักเข้าป่าไปยิงกระต่าย พอกลับออกมาก็ได้เมนูผัดเผ็ดทำอาหารรับประทานร่วมกัน
ooo
ความหรรษาในการเดินทางไปหัวหินเมื่อหลาย 10 ปีก่อน ต้องยกให้รถไฟ คุณชายเล่าว่า สมัยนั้นเป็นเรื่องที่โก้มาก ที่นั่งบนรถไฟทำด้วยไม้ ภาชนะต่างๆ สำหรับบริการอาหารทุกอย่างก็ใช้เครื่องเงินแท้ แถมอาหารที่เสิร์ฟบนโบกี้ก็อร่อยมาก เป็นเมนู ไข่เจียว แกงเขียวหวาน เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ให้คลายหิวได้แบบเต็มอิ่มไปกับทิวทัศน์ 2 ข้างทาง
ooo
ในอดีตแม้การเดินทางจะใช้เวลามากกว่าถ้าเทียบกับสมัยนี้ เพราะเป็นแบบถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่ง แต่ด้วยความงดงามของชายหาด น้ำทะเลใสๆ ที่ใครๆ ก็อยากมา ถึงจะนานแค่ไหนก็ไม่รู้สึกว่าช้าจนเกินไป สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยสำหรับถิ่นมนต์ขลังแห่งนี้ คุณชายยกให้ ตลาดหัวหิน ที่มีอายุกว่า 60 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงเดิมทั้งตัวอาคาร บรรยากาศ และความเฉอะแฉะ ส่วนของอร่อยเจ้าประจำในละแวกนี้ เมื่อมาถึงที่นี่จะต้องไปซื้อข้าวเหนียวมะม่วงที่ร้านฝั่งตรงข้ามตลาด ถ้าเดินลงไปทางทะเลอีกสักนิด ก็จะเจอร้านขายบะหมี่เป็ดย่างที่อร่อยมากอีกเจ้าหนึ่ง
ooo
นอกจากนี้ หัวหินในอดีตยังมีโรงหนังที่ฉายหนังให้ทุกคนได้ชม ซึ่งปัจจุบันโดนรื้อถอนไปหมดแล้ว และสนามกอล์ฟแห่งแรกของประเทศไทยก็ตั้งอยู่ที่นี่ด้วย ซึ่งแต่ก่อนไม่มีทีวี เกมส์คอมพิวเตอร์ให้เล่น กิจกรรมยามว่างของพวกผู้ใหญ่ก็จะมาเล่นกอล์ฟเล็กกันที่ ร.ร.รถไฟ เป็นเรื่องที่โก้ และได้รับความนิยมอย่างมาก แต่การมาหัวหินทริปนี้สำหรับคุณชาย ถือเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าพักใน ร.ร.รถไฟ เพราะเมื่อครั้งยังเยาว์ทุกครั้งที่คุณชายมาหัวหิน จะมากันเป็นครอบครัวและเข้าพักที่บังกะโล ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ติดๆ กัน เรียกว่า บ้าน 3 สุข ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกครอบครัว “โชติกเสถียร”
ooo
คุณชายบอกว่า มีทั้ง ครอบครัวปันยารชุน (ซึ่งหม่อมจิตรา วรวรรณ ณ อยุธยา คุณแม่ เป็นลูกสาวของคุณหญิงปริบ ปันยารชุน คุณยายของคุณชายเดิมนั้นคือ คนในครอบครัวโชติกเสถียร) ครอบครัวสารสิน บ้านคุณลุงพจน์ สารสิน ซึ่งภรรยาของท่าน ท่านผู้หญิงสิริ สารสิน (เดิมนั้นเป็น โชติกเสถียร) และอีกหลังเป็นของคุณหลวงสุระ ซึ่งก็เป็นคนใน ครอบครัวโชติกเสถียร ด้วยเช่นกัน
ooo
“ครั้งอดีตบ้าน 3 สุข ของเราอบอุ่นมาก ญาติพี่น้องจะมาพักตากอากาศด้วยกันที่หัวหินในช่วงฤดูร้อน จำได้ว่า...บ้านที่เราพักเป็นลักษณะบ้านไม้ไทยประยุกต์ แต่ละหลังเป็นลานเปิดที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพาน ถึงวันนี้แม้ลูกหลานจะพากันขายบ้านจนต้องจบวารกาลของบ้าน 3 หลังนี้ไปก็ตาม แต่ผมยังคงจำได้ถึงภาพเก่าๆ การเดินทางมาหัวหินกันแต่ละครั้ง ต้องเช่ารถกระบะ ขนเอาครัวมาด้วย ทั้งคนครัวและเตาถ่าน อาศัยมาซื้อถ่านและของสดกันที่หัวหิน แต่ละเมนูอาหารจะมีคุณยายเป็นแม่บ้านใหญ่ เมนูอาหารก็เป็นแบบเรียบง่าย บางทีเพียงแค่ ข้าวไข่เจียว น้ำปลาพริก มะนาว หอมแดงซอยลงไปก็อร่อยแล้ว ซึ่งเป็นความทรงจำที่ดีว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่ๆ ทุกคนในครอบครัวได้รับความอบอุ่นและมีความสุขร่วมกัน”
ooo
ถึงวันนี้ถ้าต้อง เปรียบหัวหินเป็นอะไรสักอย่างในใจ คุณชายบอกว่า อยากให้หัวหินยังคงเป็นแหล่งพักผ่อนสำหรับครอบครัวคนไทยไปตลอดกาล มีหาดทรายขาวนุ่ม เหมือนไหม มีปูลมที่ออกมาตอนเที่ยง ตรงเวลาจนสามารถมาจับเล่นได้ และเกลียวคลื่นใสๆ ให้ได้ชื่นชม เพื่อเก็บเป็นความทรงจำของทุกคนในครอบครัว
o
ขอบคุณข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์
huahinhub Thanks
o

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น