6.07.2552

| เชื่อมโยงธุรกิจ ๑๔ (ภูมิปัญญาชาวเขาสู่ผลิตภัณฑ์)





k
k
k
“ผู้ชายขายผัก”ผลผลิตลุ่มน้ำโขง ตีแผ่ภูมิปัญญาชาวเขาสู่ผลิตภัณฑ์

จากผลงานวิจัยหลังจากได้รับทุนศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ที่ต้องไปคลุกคลีอยู่กับชาวบ้าน ชาวเขา บนที่ราบสูงของ จ.เชียงราย เป็นเหมือนการเปิดโลกกว้างให้กับตัวเองในเรื่องสมุนไพรไทย ที่มีคุณค่า และถูกซ่อนเร้นอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่หากนำมาพัฒนาต่อยอดสู่สาธารณชน จะก่อให้เกิดประโยชน์กับคนไทยอีกหลายล้านคน หลังจากที่เคยทดลองกับตัวเองและได้ผลมาแล้ว

เริ่มจากที่นายวรการ เทพวัลย์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท คาเอรุ จำกัด ได้รับทุนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาต่อทางด้านปริญญาเอก ที่สนใจทำวิจัยในเรื่องภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้าน ในโครงการที่ทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับโลกตะวันออกได้อย่างยั่งยืน ด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยลงพื้นที่ศึกษาบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง ของกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น กลุ่มอาข่า ทำให้ค้นพบองค์ความรู้ด้านภูมิปัญญาไทยจากสมุนไพรของกลุ่มชาติพันธุ์ ที่สืบทอดกันมา รวมถึงได้มีโอกาสใช้สมุนไพร และความรู้ด้านโภชนาการ ของกลุ่มชาติพันธุ์ทำให้การสุขภาพร่างกายของตัวเองดีขึ้นด้วย ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด

“ก่อนที่ผมจะลงมือทำงานวิจัย ผมมีปัญหาเรื่องต่อมเหงื่อโตผิดปกติ จากการบริโภคที่ไม่ถูกวิธี คือ จะบริโภคเนื้อสัตว์ในปริมาณที่มาก และมีอาการของท้องผูก ทำให้กลายเป็นคนที่มีเหงื่อออกอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกไม่สะอาด กังวลเรื่องคนรอบข้างจะรังเกียจ จึงไปพบแพทย์ ต้องฉีดโบท็อก เพื่อระงับต่อมเหงื่อให้ผลิตน้อยลง แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร จนครั้งสุดท้ายแพทย์แนะนำให้ตัดต่อมเหงื่อทิ้ง แต่ผมก็ยังไม่อยากตัด ประกอบกับในช่วงนั้นต้องเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.เชียงราย เพื่อทำงานวิจัย ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในเรื่องการกินอยู่ไปตามชาวบ้านโดยปริยาย ซึ่งการปรับตัวครั้งใหญ่ของชีวิตครั้งนี้ ก็ได้เปลี่ยนชีวิตของผมเลย เพราะไม่น่าเชื่อว่าชาวเขาเหล่านี้จะมีความรู้ในเรื่องโภชนาการเป็นอย่างดี และเมื่อเรานำมาปรับใช้กับตัวเอง สุขภาพร่างกายดีขึ้น อวัยวะในร่างกายมีความสมดุลขึ้น โดยเฉพาะต่อมเหงื่อที่มีปัญหา ปัจจุบันไม่ต้องไปพบแพทย์แล้ว เพียงแต่ปรับวิธีการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ปลอดสารพิษ ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขโดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดต่อมเหงื่อ”

จากความมหัศจรรย์ในเรื่องภูมิปัญญาดังกล่าว ทำให้นายวรการ คิดต่อยอดให้กลายเป็นสินค้าที่คนไทยได้ใช้ด้วย โดยผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ และให้มีการสร้างมาตรฐานสากล โดยเริ่มแรกได้นำสมุนไพรในท้องถิ่นลุ่มน้ำโขงมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการดับกลิ่นตามร่างกายเกือบทุกชนิด เช่น กลิ่นเหงื่อ กลิ่นเท้า และกลิ่นตัว ภายใต้แบรนด์ คาเอรุ ต่อมาหลังจากที่ได้คลุกคลีอยู่กับชาวเขามานาน ก็พบว่าผลผลิตประเภทผักสดปลอดสารพิษของชาวเขาถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางตั้งแต่อยู่หน้าไร่ ในเรื่องของราคา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นสิ่งบีบคั้นให้ชาวบ้านไปทำอาชีพเสริมที่ผิดกฎหมาย อย่างการปลูกฝิ่น เพื่อหารายได้หล่อเลี้ยงครอบครัว ทำให้นายวรการเกิดความคิดที่จะช่วยเหลือชาวเขา ด้วยการับซื้อผลผลิตในราคาที่ชาวเขาตั้งไว้ แล้วนำมาจำหน่ายต่อที่กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ชาวเขาจะปฏิบัติตามขั้นตอนการปลูกผัก การใช้ปุ๋ย หรือแม้กระทั่งการเก็บเกี่ยว ตามขั้นตอนที่ทางนายวรการ และมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายกำหนดด้วย เพื่อสร้างมาตรฐานสากล ให้ผู้บริโภคยอมรับ โดยในส่วนของการทำการตลาดทั้งหมดนายวรการเป็นผู้รับผิดชอบภายใต้แบรนด์ “ผู้ชายขายผัก” ที่ถือเป็นชื่อที่จดจำง่าย และสร้างความน่าสนใจในสินค้าให้กับผู้บริโภค

นอกจากสินค้าประเภทผักของลุ่มน้ำโขงแล้ว ทางร้านผู้ชายผักยังได้นำผลิตภัณฑ์สมุนไพรตัวอื่นๆ มาจำหน่ายด้วย เช่น น้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรและผลไม้จากลุ่มน้ำโขง เช่น ลูกไหนป่า กล้วยป่า ใบฝรั่งดอย และสมุนไพรอีกกว่า 8 ชนิด ที่ช่วยแก้โรคท้องผูก และกลิ่นตัว นอกจากนี้ยังได้มีการน้ำสลัดที่ทำจากผลไม้ตามฤดูกาล, ข้าวกล้องดอย ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากกว่าการรับประทานอาหารเช้า 1 มื้อ มีโปรตีนสูง และมีกรดอะมิโนถึง 9 ชนิด จาก 18 ชนิดเลยทีเดียว ทำให้ข้าวกล้องดอยกลายเป็นอาหารทดแทน ไม่ใช่อาหารเสริม ซึ่งมารดาที่ไม่มีน้ำนมให้ลูกก็สามารถนำน้ำข้าวไปให้ลูกดื่มทดแทนน้ำนมแม่ได้, ซุปผัก 7 สี, ซุปผัก 3 อย่าง และสาหร่ายไกอบกรอบ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น

“ผมไม่อยากให้ทุกคนมองว่าผลิตภัณฑ์คุณภาพบนดอยมีแต่เพียง ชาและกาแฟ เท่านั้น แต่ความมหัศจรรย์บนดอยยังมีอีกมากมายที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ หากเราเห็นคุณค่า และนำมาต่อยอดเพิ่มมูลค่า ไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้ผลผลิตจากบนดอยเป็นที่รู้จักแล้ว ยังเป็นการช่วยให้ชาวเขามีรายได้ มีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ต้องไปปลูกพืชที่ผิดกฎหมายทำลายสังคม และหากเราช่วยกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมาตรฐาน ก็สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ รวมถึงสามารถขยายตลาดส่งออกได้ด้วย”

ปัจจุบันร้านผู้ชายขายผักมีจำหน่ายที่สถานีรถฟ้าหมอชิต ศาลาแดง และทาวน์ อิน ทาวน์ ย่านลาดพร้าว 94 ใครที่ต้องการเสริมสร้างสุขภาพด้วยผักสดปลอดสารพิษ รวมถึงยังได้ช่วยอุดหนุนสินค้าจากชาวเขาลุ่มน้ำโขงได้ลืมตาอ้าปากได้ ก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะเวียนไปลิ้มลองผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติของร้านผู้ชายขายผักนี้ และหากชาวหัวหิน สนใจสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1882-8585
kkkk
ขอบคุณข้อมูลจาก www.manager.co.th
huahinhub Thanks
kkkk

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น