6.08.2552

| สร้างสรรค์วัฒนธรรม และสังคมเมือง ๙๒ (จิตกรรมเสียงเบา พร่ำบ่นการเมือง)







จิตรกรรมเสียงเบา พร่ำบ่นบนการเมือง
จริงหรือที่ว่าการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ จริงหรือที่ว่าข้อมูลข่าวสารคืออำนาจ หากเป็นเช่นนั้นเมื่อทั้งสองอย่างรวมกัน เป็น 'ข่าวสารการบ้านการเมือง' ก็น่าจะทรงคุณค่ามหาศาลสำหรับทุกการรับรู้ จะเป็นอย่างไรหากข่าวสารการบ้านการเมืองโดยเฉพาะในแง่มุมที่น่าเหนื่อยใจถูกนำเสนออย่างท่วมทะลัก ทำให้ใครบางคนเกิดอาการบริโภคข้อมูลข่าวสารล้นเกินจนเกิดอาการ 'หน่าย' การบ้านการเมืองไปเลย
o
'
Silent Decibel : จิตรกรรมเสียงเบา' นิทรรศการศิลปกรรมโดย ทศพล บริบูรณ์ การแสดงออกถึงความ 'หน่าย' ข้อมูลข่าวสารโดยเฉพาะด้านการเมืองผ่านผลงานจิตรกรรมที่ใช้ภาพเหมือนของตนเองเป็นสัญลักษณ์ สื่อถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการรับรู้ข่าวสาร การดำรงตนอยู่ในสังคม การครุ่นคิดภายในใจ ด้วยเส้นสายสงบนิ่งคล้ายการเอ่ยปากจากน้ำเสียงแผ่วเบา นิ่งงันและซ่อนเร้นอารมณ์แท้จริง
o
ทศพล บริบูรณ์ เกิดที่จังหวัดลพบุรี จบการศึกษา ศิลปบัณฑิตสาขาวิชาจิตรกรรม คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และศิลปมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตรกรรม คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ผ่านมาเขาได้รับทุนส่งเสริมการศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะ จากมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รวมถึงได้รับรางวัลดีเด่นจากการประกวดศิลปกรรม '14 ตุลา วันประชาธิปไตย' เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี 14 ตุลาคม 2516 ผ่านการแสดงผลงานศิลปะร่วมกับศิลปินคนอื่นๆ หลายครั้ง ก่อนจะเดินทางมาถึงนิทรรศการแสดงผลงานเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตครั้งนี้
o
"จากงานชุดก่อนๆ เนื้อความคิดก่อนหน้านี้จะพูดเรื่องความรู้สึกข้างในของตัวเองเหมือนกัน แต่จะพูดถึงเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว เรื่องอดีตของตัวเอง จนประมาณช่วงปีสองปีหลังๆ ที่เหมือนกับจะสะสมเรื่องข่าวสารการเมืองมาพอสมควร เวลาทำงานก็เช็คว่าช่วงนี้ตัวเองคิดเรื่องอะไรอยู่แล้วก็ปล่อยออกมา" ทศพล เล่าร่องรอยความคิดก่อนมาเป็นนิทรรศการ '
Silent Decibel : จิตรกรรมเสียงเบา'
o
หากมองในแง่ของเทคนิคการสร้างสรรค์งานศิลปะ การวาดภาพหรือที่เรียกว่างานจิตรกรรมเป็นสื่อศิลปะที่เสพด้วยตา ไม่มี 'เสียง' ดังออกมาให้หูได้ยิน เมื่อพูดถึงเสียงของภาพวาดจึงเทียบได้กับเนื้อหาและความหมายในงานเหล่านั้น ในงานชุดนี้ของทศพล ผู้ชมจะได้เห็นผลงานหลายชิ้นที่ดูเหมือนถูกวาดขึ้นซ้ำๆ กัน แทนความหมายถึงการรื้อฟื้น ทบทวนเหตุการณ์เดิมๆ ที่ยังวนเวียนติดค้างอยู่ในใจ ทุกกิจกรรมที่เคลื่อนไปนั้นเสมือนถูกย้อมเคลือบด้วยฟิลเตอร์ที่เรียกว่า 'ความเงียบ'
o
ภาพบางภาพมาพร้อมถ้อยคำประกาศชัดเจน ภาพบางภาพดูนิ่งเนือยเหมือนหนังเนิบๆ ที่ไร้ไคลแมกซ์ ขณะเดียวกันก็สื่อแสดงถึงความคลุมเครือ ซุกซ่อนความหมาย ปล่อยเนื้อความความให้ล่องลอยลางเลือนอยู่ระหว่างบรรทัด "ที่มาของนิทรรศการครั้งนี้ ก็พูดถึงสิ่งที่ต่างๆ ที่มีเข้ามาให้ต้องรับรู้ พูดถึงความล้นเกินของข้อมูล หลายๆ เรื่องเราไม่ได้อยากรู้แต่ก็ปฏิเสธํไม่ได้ ความคิดเริ่มต้นคือผมมองเรื่องของสื่อ เรื่องของเทคโนโลยีที่มันเกินๆ เหมือนว่าเรายิ่งรับรู้มากยิ่งเหมือนไม่ได้รับรู้อะไร เป็นการตั้งคำถามว่าข้อมูลความรู้ที่เข้ามานั้นมันจำเป็นกับเราจริงๆ หรือเปล่า เพราะจากการใช้ชีวิตที่ผ่านมาทำให้พบว่าหลายๆ ครั้งสิ่งที่เรารู้มันไม่ช่วยแก้ปัญหา เพราะปัญหาไม่ได้แก้ด้วยความรู้เพียงอย่างเดียว อย่างเช่นเรื่องความขัดแย้งระหว่างสีเหลืองสีแดง"
o
จากแนวคิดดังกล่าว สะท้อนผ่านผลงานจิตรกรรมที่ศิลปินมองว่าไม่ได้มุ่งหวังให้เป็นเสียงประกาศก้องฟ้องสังคมให้เห็นปัญหา หรือเป็นเสียงสวรรค์ที่พร้อมจะตัดสินทุกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามากระทบ แต่เป็นเพียงเสียงเบาๆ ที่พร่ำบ่นกับตนเอง สอบถามสภาพจิตของตนเองที่ตอบรับกับปรากฎการณ์สังคมต่างๆ ที่ได้รับรู้รับเห็น o
"ถ้าภาพวาดของผมมีเสียงก็คงเป็นเสียงเบาๆ คล้ายกับเสียงพร่ำบ่น เสียงของการทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในอีกด้านเสียงเบาก็หมายถึงการจับสังเกตกิริยาอาการของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวที่ก่อความกังวลขึ้นในใจ ไม่ว่าจะเรื่องสังคม สิ่งแวดล้อม ที่เข้ามาประชิดตัวเราอย่างเงียบๆ ไม่รู้ว่าจะมาถึงตัวเมื่อไหร่ ก่อกวนใจอยู่ลึกๆ เหมือนการจ้องมองดูไฟกำลังไหม้บ้านคนอื่น เหมือนเรื่องที่ซึมเข้ามาโดยเราไม่รู้ตัว เช่น เรื่องการเมืองที่ทำให้คนเราไม่มั่นคงทางจิตใจ จะทำอะไรมันก็กระทบไปหมด อยู่บ้านเดียวกันบางครั้งก็ยังคุยเรื่องการเมืองกันไม่ได้ นั่งแท็กซี่ก็คุยไม่ได้ เป็นเรื่องที่อยู่รอบตัวแต่เรากลับไม่เห็นอันตรายของมัน" ทศพล อธิบาย
o
"มันเป็นงานที่อยากพูดเรื่องการเมือง แต่เป็นการเมืองในมุมมองคนที่เอียนกับเรื่องพวกนั้น คนที่หน่ายกับข้อมูลที่ล้นเข้ามาทั้งที่เราไม่ได้อยากรับรู้ เป็นการพูดแบบคนที่ไม่อยากจะแคร์แล้ว"
.........................
นิทรรศการ '
จิตรกรรมเสียงเบา' โดย ทศพล บริบูรณ์ จัดแสดงจบไปแล้วตั้งแต่ 17 พฤษภาคม 2552 ณ ดีโอบีหัวลำโพง แกลเลอรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.0-2422-2092
o
การแสดงออกใดใด ที่พึงประสงค์ทั้งหลาย ยังต้องการที่ว่าง และยังมีมีที่ว่าง เสมอ เพื่อการนั้น...หรือเพื่อนๆชาวหัวหิน ว่าอย่างไร...สวัสดี
o
ขอบคุณข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ
huahinhub Thanks
o

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น