![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgVpP5MF6_ru8hYTl7tlcdfLzV-QydYH09pWB94Nd1mFWY3_KkKAcvniIw_E4HtbMzheMQ02hqQda_MtP1wKJOjaiJbyEL5cMYwn4r1gvPsgy4dEQe0ZwfX-dlk5l0ZQ4h2oVA6GlJMvc7e/s400/apinan.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEir6F74NoxZqgmnn6v4BM8Ho2okm50JKYv99JSgLjc5DA8snBjqrsAYet7PqJAlWJzvv15rSOQEIrcuGdM2rpwPStKKv_YbAPIRbLGT9ccXJtfe85sKpYM8RzLv_FNk7MirOkGlFo7wuyi5/s320/img_header.jpg)
ปัจจุบัน ศ. ดร. อภินันท์ โปษยานนท์ คือผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ซึ่งเป็นกรมหนึ่งในกระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานที่มีอายุราว 7 ปี และมีผลงานมากขึ้นๆ ในแต่ละปีที่ผ่านพ้น กล่าวโดยรวมเขาคือเจ้าของบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงแวดวงศิลปะของไทยเข้ากับภาครัฐ และยังเชื่อมต่อไปยังหน่วยงานอื่นๆ รวมทั้งองค์กรภาคเอกชนอีกจำนวนมาก
hhhhh
หากจะพูดให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยคือผู้ก่อตั้งรางวัลศิลปาธรที่มอบให้กับศิลปินร่วมสมัยมาแล้ว 5 ปี เป็นผู้หาทุน ให้ทุน และช่วยประชาสัมพันธ์งานศิลปะไทยหลายต่อหลายงาน พาศิลปินไทยไปแสดงงานที่ต่างประเทศ มีส่วนร่วมกับหนังของ อภิชาตพงษ์ วีระเศรษฐกุล ไปจนถึงงานแจกรางวัลสุพรรณหงส์ มีส่วนร่วมตั้งแต่การประกวดศิลปินรุ่นเยาว์ ไปจนถึงการประกวดศิลปกรรมเพื่อโอลิมปิค และ ศ. ดร. อภินันท์ ก็คือผู้ที่รับผิดชอบดูแลและก่อร่างสร้างหน่วยงานนี้ขึ้นมา
หากจะพูดให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยคือผู้ก่อตั้งรางวัลศิลปาธรที่มอบให้กับศิลปินร่วมสมัยมาแล้ว 5 ปี เป็นผู้หาทุน ให้ทุน และช่วยประชาสัมพันธ์งานศิลปะไทยหลายต่อหลายงาน พาศิลปินไทยไปแสดงงานที่ต่างประเทศ มีส่วนร่วมกับหนังของ อภิชาตพงษ์ วีระเศรษฐกุล ไปจนถึงงานแจกรางวัลสุพรรณหงส์ มีส่วนร่วมตั้งแต่การประกวดศิลปินรุ่นเยาว์ ไปจนถึงการประกวดศิลปกรรมเพื่อโอลิมปิค และ ศ. ดร. อภินันท์ ก็คือผู้ที่รับผิดชอบดูแลและก่อร่างสร้างหน่วยงานนี้ขึ้นมา
hhhhh
อดีตนักเรียนนอกที่ร่ำเรียนด้านประวัติศาสตร์ศิลปะมาโดยตรง และอดีตอาจารย์คนแรกของคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนนี้ มีวิธีการ ‘บริหารศิลปะ’ ได้อย่างไร? นี่ย่อมเป็นเรื่องที่น่าติดตาม ไม่ใช่หรือ?
kkkk
คุณรู้ตัวตั้งแต่ตอนไหนว่าชอบศิลปะ?
รู้ตัวตอนที่รู้ว่าทำเลขไม่ค่อยเก่ง แล้วสนใจเรื่องของการขีดการเขียนรูปมาตั้งแต่เล็กๆ ความสนใจมันเหมือนทำให้เกิดสมาธิโดยที่เราไม่รู้ตัว ง่วนเขียนรูป เมื่อก่อนมีหนังสือวีนัสเป็นสมุดวาดรูปเล็กๆ ผมก็เขียนเป็นตั้งๆ ผมจบป. 4 ที่ร.ร.เซนต์ดอมินิก แล้วถูกส่งไปเรียนที่ประเทศอังกฤษซึ่งมันก็ส่งผลอีก เพราะว่าถึงแม้เป็นโรงเรียนประจำแต่เขาก็เปิดโอกาสให้เราแสดงทักษะความสนใจหรืองานอดิเรกหรืออะไรหลายๆ อย่าง ให้เรามีทางเลือกเยอะ ซึ่งนั่นมันก็ 40 กว่าปีมาแล้วนะครับ แต่มันก็มีทางเลือกเยอะกว่าที่เมืองไทย แล้วผมคิดว่าถ้าเผื่ออยู่เมืองไทยก็อาจสนใจเรื่องศิลปะต่อไปเพราะเลขเราก็ยังด้อยอยู่ แต่ว่าพอไปตรงนั้นมันมีช่องทางเรื่องการเขียนรูป การออกแบบ ดีไซน์ต่างๆ มันเป็นวิชาที่สามารถเก็บคะแนนมาช่วยได้
อดีตนักเรียนนอกที่ร่ำเรียนด้านประวัติศาสตร์ศิลปะมาโดยตรง และอดีตอาจารย์คนแรกของคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนนี้ มีวิธีการ ‘บริหารศิลปะ’ ได้อย่างไร? นี่ย่อมเป็นเรื่องที่น่าติดตาม ไม่ใช่หรือ?
kkkk
คุณรู้ตัวตั้งแต่ตอนไหนว่าชอบศิลปะ?
รู้ตัวตอนที่รู้ว่าทำเลขไม่ค่อยเก่ง แล้วสนใจเรื่องของการขีดการเขียนรูปมาตั้งแต่เล็กๆ ความสนใจมันเหมือนทำให้เกิดสมาธิโดยที่เราไม่รู้ตัว ง่วนเขียนรูป เมื่อก่อนมีหนังสือวีนัสเป็นสมุดวาดรูปเล็กๆ ผมก็เขียนเป็นตั้งๆ ผมจบป. 4 ที่ร.ร.เซนต์ดอมินิก แล้วถูกส่งไปเรียนที่ประเทศอังกฤษซึ่งมันก็ส่งผลอีก เพราะว่าถึงแม้เป็นโรงเรียนประจำแต่เขาก็เปิดโอกาสให้เราแสดงทักษะความสนใจหรืองานอดิเรกหรืออะไรหลายๆ อย่าง ให้เรามีทางเลือกเยอะ ซึ่งนั่นมันก็ 40 กว่าปีมาแล้วนะครับ แต่มันก็มีทางเลือกเยอะกว่าที่เมืองไทย แล้วผมคิดว่าถ้าเผื่ออยู่เมืองไทยก็อาจสนใจเรื่องศิลปะต่อไปเพราะเลขเราก็ยังด้อยอยู่ แต่ว่าพอไปตรงนั้นมันมีช่องทางเรื่องการเขียนรูป การออกแบบ ดีไซน์ต่างๆ มันเป็นวิชาที่สามารถเก็บคะแนนมาช่วยได้
kkkkk
ทีนี้เราต้องเลือกวิชาอื่นด้วย เราก็ค้นพบอีกว่าวิทยาศาสตร์เราก็ไม่เก่ง ปรากฏว่าสมองซีกขวานี่ถูกพัฒนาไปเรื่อยๆ และมันมีโอกาส ก็เลยตัดสินใจเลือกประวัติศาสตร์ศิลปะด้วย แล้วก็พอโตขึ้นผมไปอยู่อังกฤษกับสก็อตแลนด์มา 20 กว่าปี เพราะฉะนั้นผมได้ดูงานศิลปะตลอด มันบ่มมาโดยตลอด พอย้ายไปอีกโรงเรียนมันก็เริ่มบ่งบอกว่า เรามีความสามารถตรงนั้น เขาก็ให้ไปออกแบบเวทีละคร มันก็เกิดความรู้สึกว่าศิลปะไม่ได้เป็นแค่งานอดิเรกหรือว่าวิชาเสริม จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยที่สก็อตแลนด์ที่เอดินเบิร์ก ผมก็เลือกวิชาวิจิตรศิลป์ เวลาครึ่งนึงเป็นงานสตูดิโอที่อาร์ตคอลเลจ แต่เวลาอีกครึ่งคือเรียนประวัติศาสตร์ศิลปะที่มหาวิทยาลัย เพราะฉะนั้นมันเหมือนเป็นแซนวิชคอร์ส (Sandwich Course) มันเป็นวิชาที่ต้องใช้ในเรื่องของการเขียน การบรรยาย การวิจารณ์งานศิลปะกับปฏิบัติด้วย
hhhhh
เลือกเรียนศิลปะเป็นปริญญาตรีนี่แสดงตั้งใจว่าจะมาทำงานสายนี้เลยใช่ไหม?
คือเดิมทีผมสมัครไปที่เคมบริดจ์แต่ว่าไม่ได้ ไปที่เคมบริดจ์นี่จะเน้นประวัติศาสตร์ศิลปะอย่างเดียว พอไม่ได้ผมต้องหามหาวิทยาลัยที่เป็นทางเลือกที่รองลงมา ที่เอดินเบิร์ก สก็อตแลนด์นี่เป็นวิชาที่มันมีทั้ง 2 สิ่งที่ผมชอบอยู่แล้ว และมันเรียนคอร์สเดียวเราได้ทั้งตรีและโทใน 5 ปี เราเลยมองว่าอันนี้แหละ ซึ่งตอนนั้นก็ยังคลำทางอยู่ กลับมาบ้านยังถูกตั้งคำถามว่าไปเรียนตั้งนานใช้เงินไปตั้งเยอะ กลับมาจะทำอะไร เพื่อนฝูงรอบๆ ก็เรียนเศรษฐศาสตร์ วิศวะ หมอ เป็นวิชาหลักๆ ที่พ่อแม่ภูมิใจนะ เราเรียนศิลปะเขาก็มองว่าไม่มั่นคง แล้วกลับมาเรายังวัยรุ่น ผมยาว ย้อมสีผม เจาะหู เขายิ่งบอกว่าเตลิดไปแล้ว กลับมาคงไม่ได้ให้ความหวังกันมาก ความหวังในที่นี้คือกับอาชีพที่ชาวไทยมองว่ามั่นคงนะ (หัวเราะ)
เลือกเรียนศิลปะเป็นปริญญาตรีนี่แสดงตั้งใจว่าจะมาทำงานสายนี้เลยใช่ไหม?
คือเดิมทีผมสมัครไปที่เคมบริดจ์แต่ว่าไม่ได้ ไปที่เคมบริดจ์นี่จะเน้นประวัติศาสตร์ศิลปะอย่างเดียว พอไม่ได้ผมต้องหามหาวิทยาลัยที่เป็นทางเลือกที่รองลงมา ที่เอดินเบิร์ก สก็อตแลนด์นี่เป็นวิชาที่มันมีทั้ง 2 สิ่งที่ผมชอบอยู่แล้ว และมันเรียนคอร์สเดียวเราได้ทั้งตรีและโทใน 5 ปี เราเลยมองว่าอันนี้แหละ ซึ่งตอนนั้นก็ยังคลำทางอยู่ กลับมาบ้านยังถูกตั้งคำถามว่าไปเรียนตั้งนานใช้เงินไปตั้งเยอะ กลับมาจะทำอะไร เพื่อนฝูงรอบๆ ก็เรียนเศรษฐศาสตร์ วิศวะ หมอ เป็นวิชาหลักๆ ที่พ่อแม่ภูมิใจนะ เราเรียนศิลปะเขาก็มองว่าไม่มั่นคง แล้วกลับมาเรายังวัยรุ่น ผมยาว ย้อมสีผม เจาะหู เขายิ่งบอกว่าเตลิดไปแล้ว กลับมาคงไม่ได้ให้ความหวังกันมาก ความหวังในที่นี้คือกับอาชีพที่ชาวไทยมองว่ามั่นคงนะ (หัวเราะ)
hhhhhhhhhh
ตอนวัยรุ่นคุณมีวิธีการเสพงานศิลปะอย่างไรบ้าง?
ก็ไปดูนะครับ ผมมีโอกาสเวลาปิดเทอม คือผมชอบศิลปะอิตาลีมาก งานเรอเนซองค์ หรือก่อนเรอเนซองค์ เพราะมันเป็นประวัติศาสตร์ศิลปะ คือผมสนใจเรื่องร่วมสมัย แต่ผมถูกบ่มเพาะในบริบทของศิลปะประเพณี เพราะฉะนั้นจะได้ยินเรื่อง โรม, ฟลอเรนซ์ ตลอดเวลา มันเริ่มมีโอกาสกลับไปได้บ่อยๆ อย่างกรณีของงาน ไมเคิล แองเจโล เราพยายามที่จะไปดูสเกตช์ที่มันหายาก ทำหนังสือขอเข้าไปดูพิเศษ ไปดูของจริงหรือว่าในปราสาทราชวังที่มีงานของศิลปินอิตาลี เราก็ขอเข้าไปดู มันเป็นลักษณะที่กระหาย แต่สิ่งที่เสียโอกาสไปคือศิลปวัฒนธรรมไทยนะครับ คือผมโอนเอียงไปทางนั้นมาก และโดยสถานภาพหรือสถานที่เราไม่ค่อยมีโอกาส
ตอนวัยรุ่นคุณมีวิธีการเสพงานศิลปะอย่างไรบ้าง?
ก็ไปดูนะครับ ผมมีโอกาสเวลาปิดเทอม คือผมชอบศิลปะอิตาลีมาก งานเรอเนซองค์ หรือก่อนเรอเนซองค์ เพราะมันเป็นประวัติศาสตร์ศิลปะ คือผมสนใจเรื่องร่วมสมัย แต่ผมถูกบ่มเพาะในบริบทของศิลปะประเพณี เพราะฉะนั้นจะได้ยินเรื่อง โรม, ฟลอเรนซ์ ตลอดเวลา มันเริ่มมีโอกาสกลับไปได้บ่อยๆ อย่างกรณีของงาน ไมเคิล แองเจโล เราพยายามที่จะไปดูสเกตช์ที่มันหายาก ทำหนังสือขอเข้าไปดูพิเศษ ไปดูของจริงหรือว่าในปราสาทราชวังที่มีงานของศิลปินอิตาลี เราก็ขอเข้าไปดู มันเป็นลักษณะที่กระหาย แต่สิ่งที่เสียโอกาสไปคือศิลปวัฒนธรรมไทยนะครับ คือผมโอนเอียงไปทางนั้นมาก และโดยสถานภาพหรือสถานที่เราไม่ค่อยมีโอกาส
hhhhh
แต่ปัจจุบันนี้มีโอกาสแล้ว ก็ไปดูจิตรกรรมฝาผนัง อย่างไรก็ตามเราได้ดูงานประเพณี ซึ่งตรงนี้มันเป็น บางคนบอกว่า ‘งานที่เป็นศิลปะนี่ถ้าเกิดดูเป็น ดูตาเดียวก็พอ’ ใช่ไหมฮะ เพราะฉะนั้นการฝึกดูงานหลากหลายประเภทมันมีประโยชน์ อย่างผมไปดูงานร่วมสมัยทั้งไทยและเทศ ก็ต้องเข้าถึงศิลปิน ซึ่งการดูการเลือกมันสอนไม่ได้ข้ามคืน ซึ่งตรงนี้มันมีโอกาสที่เราได้ไปเสพตรงนั้น แล้วมันรวมไปถึงเรื่องดนตรีภาพยนตร์ต่างๆ ด้วยซึ่งในช่วงนั้น ผมไปอังกฤษ พ.ศ. 2509-10 ตอนนั้นยังมีกลิ่นอายของ The Beatles แล้วมันจะมีช่วงของการพลิกโฉมหน้าของดนตรีในยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษ นอกจาก The Rolling Stones ตอนนั้นจะมีอย่าง เดวิด โบวี่, Roxy Music หรือข้ามฟากมาอเมริกามี Velvet Underground, ลู รีด
แต่ปัจจุบันนี้มีโอกาสแล้ว ก็ไปดูจิตรกรรมฝาผนัง อย่างไรก็ตามเราได้ดูงานประเพณี ซึ่งตรงนี้มันเป็น บางคนบอกว่า ‘งานที่เป็นศิลปะนี่ถ้าเกิดดูเป็น ดูตาเดียวก็พอ’ ใช่ไหมฮะ เพราะฉะนั้นการฝึกดูงานหลากหลายประเภทมันมีประโยชน์ อย่างผมไปดูงานร่วมสมัยทั้งไทยและเทศ ก็ต้องเข้าถึงศิลปิน ซึ่งการดูการเลือกมันสอนไม่ได้ข้ามคืน ซึ่งตรงนี้มันมีโอกาสที่เราได้ไปเสพตรงนั้น แล้วมันรวมไปถึงเรื่องดนตรีภาพยนตร์ต่างๆ ด้วยซึ่งในช่วงนั้น ผมไปอังกฤษ พ.ศ. 2509-10 ตอนนั้นยังมีกลิ่นอายของ The Beatles แล้วมันจะมีช่วงของการพลิกโฉมหน้าของดนตรีในยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษ นอกจาก The Rolling Stones ตอนนั้นจะมีอย่าง เดวิด โบวี่, Roxy Music หรือข้ามฟากมาอเมริกามี Velvet Underground, ลู รีด
hhhhh
มันกลายเป็นว่าช่วงนั้นดนตรีรวมไปถึงการออกแบบ แม้แต่การปกอัลบั้มก็มีผลนะ ตอนนั้นผมจำได้ วง Yes มันจะมีปกอัลบั้มที่มันไซคีเดลิก (Psychedelic) มันมีผลกับความคิดของเราด้วย ซึ่งตอนนั้นทั้งดนตรีและงานทัศนศิลป์มันคือการเสพเข้าไปโดยไม่รู้ตัว เขียนรูปไปก็ฟังเพลงที่เราชอบไป ส่วนเรื่องดูหนังก็จำได้ว่าผมหนีไปดู The Graduate (1968) ผมอยู่โรงเรียนประจำ ก็แอบไปดูไงฮะ ดันถูกจับได้อีก เพราะพวกพี่ๆ ที่เป็นคนดูแลดันไปดูรอบเดียวกัน (หัวเราะ) ชอบดูหนังครับ ผมคิดว่าทั้งหมดนี้มันเกี่ยวกับเรื่องศิลปะ ถามว่าศิลปะร่วมสมัยคืออะไร? มันคือทั้งหมด มันคือการใช้ชีวิตที่เราเจอทุกวัน
hhhh
แล้วกลับมาคุณทำอะไร?
ผมจะกลับมาเยี่ยมบ้านทุกปี ตอนที่อยู่ปี 4 ที่สก็อตแลนด์ ผมก็กลับมาพบว่ามันมีโครงการจัดตั้งคณะศิลปกรรมศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมก็ลองมาสมัครดู มีการสัมภาษณ์ แต่ว่าเขาก็รู้ว่าผมยังไม่จบ แต่ว่าพอเขาสัมภาษณ์แล้ว เขาจะพิจารณา พอจบมาเขาก็บรรจุเป็นอาจารย์คนแรกที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เริ่มต้นชีวิตข้าราชการซึ่งดูมั่นคง เงินเดือน 3,000 กว่าบาทนี่มั่นคงมากเลย (หัวเราะ) เราก็โอเค มีไม้ลอยมาเราก็จับได้แล้ว 1 อัน ว่าเรายังทำงานศิลปะได้อยู่ แต่ว่าอยู่ในบริบทของจุฬาฯ เป็นคณะใหม่
แล้วกลับมาคุณทำอะไร?
ผมจะกลับมาเยี่ยมบ้านทุกปี ตอนที่อยู่ปี 4 ที่สก็อตแลนด์ ผมก็กลับมาพบว่ามันมีโครงการจัดตั้งคณะศิลปกรรมศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมก็ลองมาสมัครดู มีการสัมภาษณ์ แต่ว่าเขาก็รู้ว่าผมยังไม่จบ แต่ว่าพอเขาสัมภาษณ์แล้ว เขาจะพิจารณา พอจบมาเขาก็บรรจุเป็นอาจารย์คนแรกที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เริ่มต้นชีวิตข้าราชการซึ่งดูมั่นคง เงินเดือน 3,000 กว่าบาทนี่มั่นคงมากเลย (หัวเราะ) เราก็โอเค มีไม้ลอยมาเราก็จับได้แล้ว 1 อัน ว่าเรายังทำงานศิลปะได้อยู่ แต่ว่าอยู่ในบริบทของจุฬาฯ เป็นคณะใหม่
hhhh
ตอนกลับมาจากเมืองนอกคุณมองคนทำงานในแวดวงศิลปะไทยว่าเป็นอย่างไรบ้าง?
ไม่รู้เรื่องเลย ผมกลับมาก็จริงดูบ้างแต่ช่วงนั้นมันไม่ค่อยมีหอศิลป์อะไร นอกจากการแสดงที่หอศิลปกรรมแห่งชาติ งานประเภทที่หลักๆ แกลอรี่ก็น้อย มีหอศิลป์พีระศรี ผมกลับมาปี 2524 ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย กลับมาปั๊บ ตอนนั้นจุฬาฯ มีงานสมโภช 200 ปี รัตนโกสินทร์ มีกิจกรรมด้านศิลปะอะไร เขาก็บอกว่าให้ลองส่งงานไปแสดง ผมก็ส่งไปพวกงานวิทยานิพนธ์แหละ เพราะผมหอบกลับมา แสดงที่งานศิลปกรรมแห่งชาติ ตอนนั้นก็ได้รางวัล ซึ่งผมก็ตกใจ เราทราบว่าสมัยนั้นงานศิลปกรรมแห่งชาติจะอยู่ในกรอบค่อนข้างในแวดวงเฉพาะ กว่าจะฝ่าไปมันยากแค่ไหน แต่พอเราส่งไปแล้วได้รางวัล เรารู้สึกว่าอย่างน้อยมันก็พิสูจน์ว่า 20 ปีที่เราทำมา เป็นรางวัลแรกที่ได้ ดีใจ ยังจำได้ว่าตอนที่ไปรับรางวัลได้เจอศิลปินที่เราเคยแต่ได้ยินชื่อเสียงท่าน คือ อ.ถวัลย์ ดัชนี ท่านบอกว่า “นี่ก็ลองสร้างสกุลใหม่ขึ้นมา” ก็รู้สึกว่าท่านให้กำลังใจครับ
ตอนกลับมาจากเมืองนอกคุณมองคนทำงานในแวดวงศิลปะไทยว่าเป็นอย่างไรบ้าง?
ไม่รู้เรื่องเลย ผมกลับมาก็จริงดูบ้างแต่ช่วงนั้นมันไม่ค่อยมีหอศิลป์อะไร นอกจากการแสดงที่หอศิลปกรรมแห่งชาติ งานประเภทที่หลักๆ แกลอรี่ก็น้อย มีหอศิลป์พีระศรี ผมกลับมาปี 2524 ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย กลับมาปั๊บ ตอนนั้นจุฬาฯ มีงานสมโภช 200 ปี รัตนโกสินทร์ มีกิจกรรมด้านศิลปะอะไร เขาก็บอกว่าให้ลองส่งงานไปแสดง ผมก็ส่งไปพวกงานวิทยานิพนธ์แหละ เพราะผมหอบกลับมา แสดงที่งานศิลปกรรมแห่งชาติ ตอนนั้นก็ได้รางวัล ซึ่งผมก็ตกใจ เราทราบว่าสมัยนั้นงานศิลปกรรมแห่งชาติจะอยู่ในกรอบค่อนข้างในแวดวงเฉพาะ กว่าจะฝ่าไปมันยากแค่ไหน แต่พอเราส่งไปแล้วได้รางวัล เรารู้สึกว่าอย่างน้อยมันก็พิสูจน์ว่า 20 ปีที่เราทำมา เป็นรางวัลแรกที่ได้ ดีใจ ยังจำได้ว่าตอนที่ไปรับรางวัลได้เจอศิลปินที่เราเคยแต่ได้ยินชื่อเสียงท่าน คือ อ.ถวัลย์ ดัชนี ท่านบอกว่า “นี่ก็ลองสร้างสกุลใหม่ขึ้นมา” ก็รู้สึกว่าท่านให้กำลังใจครับ
hhhhh
เรียกว่าแวดวงศิลปะก็ยอมรับคุณ
ไม่รู้ว่ายอมรับหรือเปล่า ตอนนั้นเราแค่ 20 กว่าๆ แต่มันก็เป็นไม้อีกท่อนหนึ่งลอยมาแล้วเราก็เกาะได้ พอสอนอยู่ที่จุฬาฯ 3 ปี ผมก็สอบชิงทุนไปเรียนต่อ แต่ก่อนไปผมไปแสดงงานแสดงเดี่ยวที่หอศิลป์ พีระศรี มีชื่อว่า สอนศิลป์ให้ไก่กรุง งานนั้นก็ได้อีก 2 รางวัลของงานศิลปกรรมแห่งชาติ ก่อนไปก็รู้สึกว่าเรามาอยู่นี่ 3 ปีเราก็มีพื้นที่เล็กๆ ให้กับเรา จากนั้นผมก็หายไปอีก 5 ปี ไปเรียนปริญญาเอกที่คอแนล เรียนประวัติศาสตร์ศิลปะเลยเพียวๆ เลยเพราะว่าเป็นทุนของจุฬาฯ ยังทำงานศิลปะอยู่เป็นครั้งคราวแต่ว่าก็น้อยลงไป
ไม่รู้ว่ายอมรับหรือเปล่า ตอนนั้นเราแค่ 20 กว่าๆ แต่มันก็เป็นไม้อีกท่อนหนึ่งลอยมาแล้วเราก็เกาะได้ พอสอนอยู่ที่จุฬาฯ 3 ปี ผมก็สอบชิงทุนไปเรียนต่อ แต่ก่อนไปผมไปแสดงงานแสดงเดี่ยวที่หอศิลป์ พีระศรี มีชื่อว่า สอนศิลป์ให้ไก่กรุง งานนั้นก็ได้อีก 2 รางวัลของงานศิลปกรรมแห่งชาติ ก่อนไปก็รู้สึกว่าเรามาอยู่นี่ 3 ปีเราก็มีพื้นที่เล็กๆ ให้กับเรา จากนั้นผมก็หายไปอีก 5 ปี ไปเรียนปริญญาเอกที่คอแนล เรียนประวัติศาสตร์ศิลปะเลยเพียวๆ เลยเพราะว่าเป็นทุนของจุฬาฯ ยังทำงานศิลปะอยู่เป็นครั้งคราวแต่ว่าก็น้อยลงไป
hhhh
ตอนที่สอนจุฬาฯ ช่วงแรกผมเริ่มเขียนหนังสือมีคอลัมน์วิจารณ์ศิลปะที่บางกอกโพสต์ เป็นการพัฒนาเรื่องของการเขียน ซึ่งอันนี้สำคัญเพราะว่ามันเริ่มสอนว่าการดูงานศิลปะแล้วมันจะถ่ายทอดไปบนกระดาษได้อย่างไร แล้วทำให้คนอ่านรู้จักการดูในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างไร ซึ่งตรงนี้ก็ติดตัวมาเรื่อยๆ แล้วยิ่งไปเรียนวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะมันก็ต้องเขียน วิทยานิพนธ์ผมก็เกี่ยวกับเรื่องศิลปะไทยร่วมสมัย แล้วผมก็มีโอกาสได้ไปอยู่ที่นิวยอร์กก่อนกลับ ตรงนั้นได้ประสบการณ์มาก ไปเจอศิลปิน ได้เรื่องของการบริหารจัดการแกลอรี่ คำว่าภัณฑรักษ์ ผมเพิ่งได้รู้จักตอนนั้น กลับมาประมาณปี 2533 ผมสอนอยู่จุฬาฯ ก็เริ่มคิดว่าจะจัดงาน ก็พยายามเลือกศิลปิน คือต้องดีลกับศิลปินซึ่งผมบอกได้เลยว่ายากมาก hhhhh
hhhhhตอนที่สอนจุฬาฯ ช่วงแรกผมเริ่มเขียนหนังสือมีคอลัมน์วิจารณ์ศิลปะที่บางกอกโพสต์ เป็นการพัฒนาเรื่องของการเขียน ซึ่งอันนี้สำคัญเพราะว่ามันเริ่มสอนว่าการดูงานศิลปะแล้วมันจะถ่ายทอดไปบนกระดาษได้อย่างไร แล้วทำให้คนอ่านรู้จักการดูในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างไร ซึ่งตรงนี้ก็ติดตัวมาเรื่อยๆ แล้วยิ่งไปเรียนวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะมันก็ต้องเขียน วิทยานิพนธ์ผมก็เกี่ยวกับเรื่องศิลปะไทยร่วมสมัย แล้วผมก็มีโอกาสได้ไปอยู่ที่นิวยอร์กก่อนกลับ ตรงนั้นได้ประสบการณ์มาก ไปเจอศิลปิน ได้เรื่องของการบริหารจัดการแกลอรี่ คำว่าภัณฑรักษ์ ผมเพิ่งได้รู้จักตอนนั้น กลับมาประมาณปี 2533 ผมสอนอยู่จุฬาฯ ก็เริ่มคิดว่าจะจัดงาน ก็พยายามเลือกศิลปิน คือต้องดีลกับศิลปินซึ่งผมบอกได้เลยว่ายากมาก hhhhh
และการจัดแสดงงานเป็นกลุ่ม ตรงนั้นเป็นเรื่องของการบริหารจัดการอารมณ์ เพราะสมัยนั้นมีน้อยคนที่ได้มีโอกาสเพราะส่วนมากศิลปินจะจัดกันเอง แต่ว่าบ้านเราขาดคนกลางที่จะมาทำตรงนี้ แล้วเราเข้าไปจัดงานและอธิบายงานให้สาธารณะชนเข้าใจสิ่งที่เราจัดและสิ่งที่ศิลปินแสดง สมมติว่างานของศิลปิน 7 คน ทุกคนดีหมด แต่ในภาพรวมทั้งงานไม่ดี เพราะมันอาจจะแออัดไปหรือต่างคนก็ต่างกันไปนะครับ แล้วนอกจากนั้น พอกลับมาผมก็มาเขียนวิจารณ์อีกครั้งด้วย
hhhh
ทำงานด้านบริหารและวิชาการมาหลายปี ตอนนี้ยังมีความอยากสร้างงานศิลปะของตัวเองอยู่ไหม?
คือผมคิดว่าการเขียนเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง เป็นทางออกหนึ่ง แม้แต่การจัดงานนี่ก็เป็นทางออกทางหนึ่ง คือสาเหตุหนึ่งที่ผมหยุดคือเพราะผมไม่มีเวลา ตั้งแต่ช่วงวิทยานิพนธ์ที่ผมต้องทำตอนปริญญาเอกนะครับ แล้วผมคิดว่ามันไม่แฟร์ที่ผมกลับมาทำงานภัณฑรักษ์ด้วย คือว่าคนมองว่าเราลำเอียงทันทีว่าเราทำงานศิลปะด้วย แล้วเราไปเลือกงานประเภทที่เราชอบด้วย ก็เลยหยุดไว้ มันอยากทำนะครับ ยังอยากทำอยู่ อย่างเมื่อปลายปีก็เพิ่งมีคนขอให้เอางานเก่าไปแสดงที่ ม.กรุงเทพ เป็นงานเก่าผมไม่ได้ทำขึ้นมาใหม่ แต่ผมก็ยังคิดว่าคงจะกลับมาทำงานศิลปะอีกนะ
hhhhh
สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย มีจุดเริ่มต้นอย่างไร?
ช่วงปี 2545 ผมสอนอยู่ที่จุฬาฯ ก็มีการปรับกระทรวงทบวงกรม มีหลายกระทรวงเกิดขึ้นมาใหม่ มีกระทรวงวัฒนธรรมด้วยช่วงนั้น มีการรวมกรมศาสนา กรมศิลปากร สวช. มันมีอีกกรมเกิดขึ้นมาใหม่คือสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ซึ่งอันนั้นเป็นการผลักดันของพวก สว., สส.ที่เขาเห็นความสำคัญของศิลปะ ซึ่งแต่ก่อนไม่มีหน่วยงานรัฐที่สนับสนุนเท่าที่ควรเลย อาจมีศิลปินแห่งชาติ แต่สำหรับคนวัยหนุ่มสาวหรือว่าคนกำลังทำงาน สร้างผลงานมากมาย ไปทำหน้าที่เป็นทูตเชิงวัฒนธรรม ตั้งแต่อีสตันบลูยันซิดนีย์ โดยที่เขาไปของเขาเอง เขาไปปักธงไทยโดยที่เขาไม่ได้รับอะไรเลย ไม่ได้รับการรับรู้อะไรด้วย ทำไปก็เท่านั้น ฉะนั้นควรมีกรมนี้ขึ้นมา เริ่มมีการประกาศรับสมัคร ตอนนั้นผมทำงานอยู่ดีๆ ที่จุฬาฯ ก็มีคนเสนอมาบอกว่าน่าจะลองสมัครดู พอปรากฏว่าได้ก็ต้องออกจากจุฬาฯ โอนมาอยู่เป็นข้าราชการที่นี้ในฐานะอธิบดีซึ่งก็ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ก็ยังทำหน้าที่นี้อยู่
ทำงานด้านบริหารและวิชาการมาหลายปี ตอนนี้ยังมีความอยากสร้างงานศิลปะของตัวเองอยู่ไหม?
คือผมคิดว่าการเขียนเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง เป็นทางออกหนึ่ง แม้แต่การจัดงานนี่ก็เป็นทางออกทางหนึ่ง คือสาเหตุหนึ่งที่ผมหยุดคือเพราะผมไม่มีเวลา ตั้งแต่ช่วงวิทยานิพนธ์ที่ผมต้องทำตอนปริญญาเอกนะครับ แล้วผมคิดว่ามันไม่แฟร์ที่ผมกลับมาทำงานภัณฑรักษ์ด้วย คือว่าคนมองว่าเราลำเอียงทันทีว่าเราทำงานศิลปะด้วย แล้วเราไปเลือกงานประเภทที่เราชอบด้วย ก็เลยหยุดไว้ มันอยากทำนะครับ ยังอยากทำอยู่ อย่างเมื่อปลายปีก็เพิ่งมีคนขอให้เอางานเก่าไปแสดงที่ ม.กรุงเทพ เป็นงานเก่าผมไม่ได้ทำขึ้นมาใหม่ แต่ผมก็ยังคิดว่าคงจะกลับมาทำงานศิลปะอีกนะ
hhhhh
สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย มีจุดเริ่มต้นอย่างไร?
ช่วงปี 2545 ผมสอนอยู่ที่จุฬาฯ ก็มีการปรับกระทรวงทบวงกรม มีหลายกระทรวงเกิดขึ้นมาใหม่ มีกระทรวงวัฒนธรรมด้วยช่วงนั้น มีการรวมกรมศาสนา กรมศิลปากร สวช. มันมีอีกกรมเกิดขึ้นมาใหม่คือสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ซึ่งอันนั้นเป็นการผลักดันของพวก สว., สส.ที่เขาเห็นความสำคัญของศิลปะ ซึ่งแต่ก่อนไม่มีหน่วยงานรัฐที่สนับสนุนเท่าที่ควรเลย อาจมีศิลปินแห่งชาติ แต่สำหรับคนวัยหนุ่มสาวหรือว่าคนกำลังทำงาน สร้างผลงานมากมาย ไปทำหน้าที่เป็นทูตเชิงวัฒนธรรม ตั้งแต่อีสตันบลูยันซิดนีย์ โดยที่เขาไปของเขาเอง เขาไปปักธงไทยโดยที่เขาไม่ได้รับอะไรเลย ไม่ได้รับการรับรู้อะไรด้วย ทำไปก็เท่านั้น ฉะนั้นควรมีกรมนี้ขึ้นมา เริ่มมีการประกาศรับสมัคร ตอนนั้นผมทำงานอยู่ดีๆ ที่จุฬาฯ ก็มีคนเสนอมาบอกว่าน่าจะลองสมัครดู พอปรากฏว่าได้ก็ต้องออกจากจุฬาฯ โอนมาอยู่เป็นข้าราชการที่นี้ในฐานะอธิบดีซึ่งก็ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ก็ยังทำหน้าที่นี้อยู่
hhhhh
ตอนเริ่มงานนี้ใหม่ๆ มีความท้าทายหรือปัญหาอะไรบ้าง?
ก็ปรับตัวเยอะพอสมควร เพราะความไม่เข้าใจกับคนที่เป็นสาธารณชน ที่มองว่าอันนี้เงินภาษีอากรจะมาทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องศิลปะ? ศิลปะร่วมสมัยคืออะไร? คือถ้าพูดถึงมรดกใช่ไหมฮะ ประเพณี ลายกนก นาง ช้าง ลิง เขารู้หมด เขารับได้ หรือว่าเรื่องศาสนาเขารับได้ แม้แต่วิถีชีวิตท้องถิ่นเขารับได้ แต่ว่าเรื่องของศิลปะร่วมสมัยนี่ต้องตั้งไข่ เริ่มต้นว่ามันคืออะไร ภาพยนตร์นี่มันคือศิลปะร่วมสมัยด้วยหรือเปล่า? ต้องมานั่งสาธยาย กับคนภายนอก และกับคนภายในอีก คือคนในกระทรวงวัฒนธรรมถามว่ามันคืออะไร จะขึ้นมาทำไมระดับกรม ทำไมไม่เป็นระดับกองไปก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยขึ้นมา อันนี้เป็นความท้าทายแรกเลย แล้วเขาให้คนมา 2 คน ผมก็ต้องคุยกับผู้คนที่เข้ามา มาสัมภาษณ์ ต้องอธิบายให้เขาฟังอีก
ตอนเริ่มงานนี้ใหม่ๆ มีความท้าทายหรือปัญหาอะไรบ้าง?
ก็ปรับตัวเยอะพอสมควร เพราะความไม่เข้าใจกับคนที่เป็นสาธารณชน ที่มองว่าอันนี้เงินภาษีอากรจะมาทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องศิลปะ? ศิลปะร่วมสมัยคืออะไร? คือถ้าพูดถึงมรดกใช่ไหมฮะ ประเพณี ลายกนก นาง ช้าง ลิง เขารู้หมด เขารับได้ หรือว่าเรื่องศาสนาเขารับได้ แม้แต่วิถีชีวิตท้องถิ่นเขารับได้ แต่ว่าเรื่องของศิลปะร่วมสมัยนี่ต้องตั้งไข่ เริ่มต้นว่ามันคืออะไร ภาพยนตร์นี่มันคือศิลปะร่วมสมัยด้วยหรือเปล่า? ต้องมานั่งสาธยาย กับคนภายนอก และกับคนภายในอีก คือคนในกระทรวงวัฒนธรรมถามว่ามันคืออะไร จะขึ้นมาทำไมระดับกรม ทำไมไม่เป็นระดับกองไปก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยขึ้นมา อันนี้เป็นความท้าทายแรกเลย แล้วเขาให้คนมา 2 คน ผมก็ต้องคุยกับผู้คนที่เข้ามา มาสัมภาษณ์ ต้องอธิบายให้เขาฟังอีก
hhhhh
คุณอธิบายความหมายของศิลปะร่วมสมัยอย่างไร?
ขยายคำว่า ร่วมสมัย มันแปลมาจากคำว่า Contemporary นะครับ ถ้าขยายความแค่นี้คนจะเริ่มไม่เข้าใจ พูดง่ายๆ คือศิลปะที่สร้างขึ้นเพื่อรับใช้สังคมในปัจจุบันนี้ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่ประมาณ 15 ปี 10 ปี เอาง่ายๆ เลยตั้งแต่เกม แอนิเมชั่น ศิลปะการแสดง งานออกแบบ คือทุกอย่าง แต่เรากำหนดสาขาประมาณ 9 สาขา เพื่อว่าให้คนเขารู้ว่ามันมีเกณฑ์โดยประมาณแต่จริงๆ แล้วเราอยู่ในสังคมพหุ ทุกอย่างมันไขว้กันหมด คือตรงนี้งานสถาปัตยกรรมกับงานดีไซน์มันไปกันได้ งานภาพยนตร์กับงานศิลปะการแสดง แสดงร่วมกันได้ การผสมผสานที่มันแตกหน่อมัน Synergist ในตัวของมันเอง
คุณอธิบายความหมายของศิลปะร่วมสมัยอย่างไร?
ขยายคำว่า ร่วมสมัย มันแปลมาจากคำว่า Contemporary นะครับ ถ้าขยายความแค่นี้คนจะเริ่มไม่เข้าใจ พูดง่ายๆ คือศิลปะที่สร้างขึ้นเพื่อรับใช้สังคมในปัจจุบันนี้ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่ประมาณ 15 ปี 10 ปี เอาง่ายๆ เลยตั้งแต่เกม แอนิเมชั่น ศิลปะการแสดง งานออกแบบ คือทุกอย่าง แต่เรากำหนดสาขาประมาณ 9 สาขา เพื่อว่าให้คนเขารู้ว่ามันมีเกณฑ์โดยประมาณแต่จริงๆ แล้วเราอยู่ในสังคมพหุ ทุกอย่างมันไขว้กันหมด คือตรงนี้งานสถาปัตยกรรมกับงานดีไซน์มันไปกันได้ งานภาพยนตร์กับงานศิลปะการแสดง แสดงร่วมกันได้ การผสมผสานที่มันแตกหน่อมัน Synergist ในตัวของมันเอง
hhhhh
คุณใช้วิธีอธิบายกับคนที่ทำงานด้วยอย่างไร?
ผมคิดว่าก็ต้องนั่งคุยกันอย่างนี้นะครับ ต้องละลายพฤติกรรมก่อน คือเขาความตั้งใจดี แต่ว่าเขายังคลำเป้าไม่เจอ แล้วใช่ว่าเราเจอนะ บางทีมันต้องช่วยกันไป คือมันเหมือนกับเขาโยนให้เลยแล้วคุณลุยไปเลย ในขณะเดียวกันคุณถามว่าความท้าทายมันอยู่ตรงไหน บางคนแรกๆ เลยผมจำได้ เขาบอกว่า ‘ไอ้กรมนี้เหรอ เดี๋ยวให้ 6 เดือน ก็สลายตัวไปเอง’ มันเป็นความท้าทายนะ แต่ตอนนี้ก็มี 50 กว่าคน เริ่มมีผลงานออกไปบ้าง แต่เราเป็นกรมตัวอย่างนะฮะ คือเราเป็นกรมเล็กๆ แต่ว่าเรามีเครือข่ายเยอะ เพราะว่าศิลปินไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ แต่ว่าในต่างจังหวัดด้วย มีพันธมิตร มีนิตยสาร มีสื่อต่างๆ เขาช่วยผลักดันพอสมควร
คุณใช้วิธีอธิบายกับคนที่ทำงานด้วยอย่างไร?
ผมคิดว่าก็ต้องนั่งคุยกันอย่างนี้นะครับ ต้องละลายพฤติกรรมก่อน คือเขาความตั้งใจดี แต่ว่าเขายังคลำเป้าไม่เจอ แล้วใช่ว่าเราเจอนะ บางทีมันต้องช่วยกันไป คือมันเหมือนกับเขาโยนให้เลยแล้วคุณลุยไปเลย ในขณะเดียวกันคุณถามว่าความท้าทายมันอยู่ตรงไหน บางคนแรกๆ เลยผมจำได้ เขาบอกว่า ‘ไอ้กรมนี้เหรอ เดี๋ยวให้ 6 เดือน ก็สลายตัวไปเอง’ มันเป็นความท้าทายนะ แต่ตอนนี้ก็มี 50 กว่าคน เริ่มมีผลงานออกไปบ้าง แต่เราเป็นกรมตัวอย่างนะฮะ คือเราเป็นกรมเล็กๆ แต่ว่าเรามีเครือข่ายเยอะ เพราะว่าศิลปินไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ แต่ว่าในต่างจังหวัดด้วย มีพันธมิตร มีนิตยสาร มีสื่อต่างๆ เขาช่วยผลักดันพอสมควร
hhhhh
วันนี้การทำงานของกรมมีปัญหาอะไรบ้าง?
ปัญหาใหญ่คือมันต้องตอบโจทย์ให้รัฐบาลเห็นความสำคัญตรงนี้ เราพูดว่าทำไมเราไม่ไปแบบเกาหลี แบบ ‘เค ป๊อป’ คือคำถามนี้มันไม่ได้อยู่ในแวดวงของศิลปะ มันไปอยู่ในมิติท่องเที่ยว มิติของอุตสาหกรรม เขาเริ่มสนใจตรงนี้ จริงๆ แล้วมันคือ Content Industry หรืออุตสาหกรรมสารัตถะ ซึ่งตรงนี้เกาหลีต้องใช้เวลา 20 กว่าปีในการบ่ม แล้วเขาแข่งกับญี่ปุ่นมาโดยตลอด ในความด้อยกว่าญี่ปุ่น มันมีแรงบันดาลใจให้เขาสู้ แต่เราอยู่ๆ จะมาทำ ‘ที ป๊อป’ ข้ามคืน hhhh
kkkkkวันนี้การทำงานของกรมมีปัญหาอะไรบ้าง?
ปัญหาใหญ่คือมันต้องตอบโจทย์ให้รัฐบาลเห็นความสำคัญตรงนี้ เราพูดว่าทำไมเราไม่ไปแบบเกาหลี แบบ ‘เค ป๊อป’ คือคำถามนี้มันไม่ได้อยู่ในแวดวงของศิลปะ มันไปอยู่ในมิติท่องเที่ยว มิติของอุตสาหกรรม เขาเริ่มสนใจตรงนี้ จริงๆ แล้วมันคือ Content Industry หรืออุตสาหกรรมสารัตถะ ซึ่งตรงนี้เกาหลีต้องใช้เวลา 20 กว่าปีในการบ่ม แล้วเขาแข่งกับญี่ปุ่นมาโดยตลอด ในความด้อยกว่าญี่ปุ่น มันมีแรงบันดาลใจให้เขาสู้ แต่เราอยู่ๆ จะมาทำ ‘ที ป๊อป’ ข้ามคืน hhhh
ผมว่าเราเอาสูตรเกาหลีมามันไม่ได้ แต่ในเวลาเดียวกันศักยภาพเรามี เรื่องของอาหาร เรื่องวัฒนธรรม การแต่งกาย เรื่องของประเพณีความเชื่อต่างๆ เรามีมากว่าเกาหลี ปัญหาใหญ่คือเราต้องดึงสิ่งเหล่านี้มา แล้วมันไม่ใช่แค่ร่วมสมัยแต่มันร่วมทั้งหมด ทั้งมรดก ทั้งร่วมมือกับท้องถิ่น ซึ่งตรงนี้มันเป็นการบริหารจัดการที่มันเป็นภาพใหญ่ ซึ่งจริงๆ มันเป็นโจทย์ของกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งทุกคนบอกว่ากระทรวงวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ มันจับได้ แต่ว่าต้องเสนอออกมาให้มันเห็น จริงๆ แล้วมันสามารถดึงเงินเข้าประเทศได้ ในอังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เขาเอาเรื่องของวัฒนธรรมมาดึงดูด เขามีปฏิทินกิจกรรมตลอดปี
hhhh
พูดง่ายๆ คือเขาขายของเก่า แต่เขามีแฟชั่น มีโตเกียวที่ไปดูงานศิลปะร่วมสมัยได้ หรือไปดูงานแบบวัดชินโต ไปดูพระราชวัง โมริอาร์ตเซ็นเตอร์ซึ่งเหล่านี้เป็นทางเลือกว่าคนเข้ามา เข้ามาดูอะไร แต่มิติของบ้านเรา เขาอยู่กรุงเทพฯ 2 วันแล้วไปภูเก็ตต่อ ทำไงให้เขาอยู่ได้ 4 วัน ดูวัดพระแก้วเสร็จแล้วไปดูอะไรต่อ มีศูนย์ศิลปะไหม? มีการแสดงเด็ดๆ ของภัทราวดีเธียร์เตอร์ต่อไหม คุณพิเชษฐ์ กลั่นชื่น มีงาน 3 ครั้ง ใน 1 ปีไหม นอกจาก Bangkok Film Festival แล้วมีอะไร เทศกาลหนังสั้น หรือเทศกาลละครกรุงเทพ คือว่ากันโดยเม็ดเงินมันมหาศาล มันไม่ใช่กระทรวงวัฒนธรรมแต่มันต้องเป็นหลายกระทรวงรวมกัน คือมันเป็นปัญหาใหญ่ ผมกำลังเน้นมิติของร่วมสมัยสำนักงานนี้ มันมีจิกซอว์ในตัวของมันที่ทำให้เห็นภาพรวมตรงนี้ได้ ซึ่งตอนนี้ดีขึ้นเยอะ เรามีการทำงานร่วมกับกระทรวงต่างประเทศกระทรวงท่องเที่ยวมากขึ้น สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์ก็มาร่วมกัน ก็มีคนร่วมเยอะ
hhhh
แล้วเรามีโครงการให้รางวัลศิลปินศิลปาธร ตอนจะเข้าปีที่ 5 แล้ว มี 5 สาขา ปีนี้จะมีอีกสาขาเพิ่มขึ้นคือการออกแบบสร้างสรรค์ด้วย ที่เคยมีคือดนตรี ทัศนศิลป์ ศิลปะการแสดง วรรณกรรม และภาพยนตร์ ซึ่งคนที่ได้รางวัลอย่าง เป็นเอก รัตนเรือง, วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง, ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวานิช, อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล แม้กระทั่ง ธัญสก พันสิทธิวรกุล อย่างน้อยมันเป็นอะไรที่บอกว่าคุณมาถูกทางแล้ว คนให้ไม่ใช่กระทรวง แต่เป็นเพื่อนร่วมงานของเขาที่มีส่วนร่วมในการโหวตเขาด้วย อย่างน้อยมันไม่ถึงระดับศิลปินแห่งชาติ แต่มันเป็นการให้ Recommendation ในการทำงานของเขา
แล้วเรามีโครงการให้รางวัลศิลปินศิลปาธร ตอนจะเข้าปีที่ 5 แล้ว มี 5 สาขา ปีนี้จะมีอีกสาขาเพิ่มขึ้นคือการออกแบบสร้างสรรค์ด้วย ที่เคยมีคือดนตรี ทัศนศิลป์ ศิลปะการแสดง วรรณกรรม และภาพยนตร์ ซึ่งคนที่ได้รางวัลอย่าง เป็นเอก รัตนเรือง, วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง, ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวานิช, อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล แม้กระทั่ง ธัญสก พันสิทธิวรกุล อย่างน้อยมันเป็นอะไรที่บอกว่าคุณมาถูกทางแล้ว คนให้ไม่ใช่กระทรวง แต่เป็นเพื่อนร่วมงานของเขาที่มีส่วนร่วมในการโหวตเขาด้วย อย่างน้อยมันไม่ถึงระดับศิลปินแห่งชาติ แต่มันเป็นการให้ Recommendation ในการทำงานของเขา
khhhh
รางวัลนี้มีจุดประสงค์และการคัดเลือกอย่างไร?
ทีแรกผมมองเลยว่าศิลปินแห่งชาติเป็นสุดยอดแล้ว แต่ว่ากว่าจะได้มันนานมาก แต่ละท่านต้องฟันฝ่า ชีวิตทั้งชีวิต และระหว่างนั้น ...คือผมไม่ได้พูดถึงงานอย่าง ศิลปกรรมแห่งชาติที่แต่ละครั้งและมีการให้ศิลปินยอดเยี่ยม อันนี้ก็ดี แต่ผมมองว่ามันน่าจะมีภาพลักษณ์โดยตรงและสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยน่าจะมีบทบาท เราเลยเริ่มต้นที่ 5 สาขาก่อน ซึ่งตอนนั้นเรามองว่ามันมีเยอะมากที่จะให้เลือก เพราะมันไม่เคยมีมาก่อนแล้วมันอั้นอยู่ แล้วกรรมการเขามองว่าศิลปินอายุประมาณ 30-50 ปี ซึ่งเราบอกว่าเป็นเกณฑ์คร่าวๆ คือเราเข้าใจว่าการให้รางวัลมันเป็นดาบสองคม เหมือนทุกงาน แล้วบางคนเห็นด้วยบางคนไม่เห็นด้วย แต่เรามองว่า เรามี 2 กรรมการ กรรมการคัดเลือกออกไปกลั่นกรอง และมีกรรมการตัดสิน
รางวัลนี้มีจุดประสงค์และการคัดเลือกอย่างไร?
ทีแรกผมมองเลยว่าศิลปินแห่งชาติเป็นสุดยอดแล้ว แต่ว่ากว่าจะได้มันนานมาก แต่ละท่านต้องฟันฝ่า ชีวิตทั้งชีวิต และระหว่างนั้น ...คือผมไม่ได้พูดถึงงานอย่าง ศิลปกรรมแห่งชาติที่แต่ละครั้งและมีการให้ศิลปินยอดเยี่ยม อันนี้ก็ดี แต่ผมมองว่ามันน่าจะมีภาพลักษณ์โดยตรงและสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยน่าจะมีบทบาท เราเลยเริ่มต้นที่ 5 สาขาก่อน ซึ่งตอนนั้นเรามองว่ามันมีเยอะมากที่จะให้เลือก เพราะมันไม่เคยมีมาก่อนแล้วมันอั้นอยู่ แล้วกรรมการเขามองว่าศิลปินอายุประมาณ 30-50 ปี ซึ่งเราบอกว่าเป็นเกณฑ์คร่าวๆ คือเราเข้าใจว่าการให้รางวัลมันเป็นดาบสองคม เหมือนทุกงาน แล้วบางคนเห็นด้วยบางคนไม่เห็นด้วย แต่เรามองว่า เรามี 2 กรรมการ กรรมการคัดเลือกออกไปกลั่นกรอง และมีกรรมการตัดสิน
hhhh
ซึ่งบางปีเวิร์กบางปีไม่เวิร์ก แต่เรามองว่ากรรมการไม่ควรอยู่ยาว มันจะมีความรู้สึกว่าเป็นรสนิยมเดิมๆ เราก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนไป พอตอนนี้เริ่มเป็นที่รู้จักบ้างก็มีงบอุดหนุนให้ศิลปิน กรรมการกลั่นกรองส่งโครงการเข้ามา ที่สดๆ ร้อนๆ เลยคือ พรบ. กองทุนเพิ่งผ่าน ต่อไปเราจะมีเงินก้อนหนึ่ง เป็นเงินจากรัฐบาล จะอยู่ในกองทุนของเรา จะเป็นกองทุนที่ศิลปินได้รับการอุดหนุนก็ได้ มากู้ก็ได้ แล้วหน่วยงานอื่นที่เป็นเอกชนจะสมทบได้ ตรงนี้จะเป็นอะไรที่ช่วยศิลปินได้เยอะ
hhhhh
มีหลักการในการช่วยศิลปินอย่างไรบ้าง?
หลักการที่แน่ๆ เลยคือเราไม่ช่วยทั้งหมด โครงการที่เข้ามาเราช่วยเต็มที่คือ 50 เปอร์เซ็นต์ เขาต้องพิสูจน์ด้วยว่าเขามีที่อื่นที่สนับสนุน แต่บางทีการสนับสนุนของเราส่งผลให้เขาหาสปอนต์เซอร์เพิ่มขึ้นได้ กรรมการเรา 2 ปีเปลี่ยนกรรมการคัดเลือก โดยที่เราเปิดให้ใครก็ได้ส่งโครงการเข้ามา กรรมการเลือกดู เราประชุมปีนึงประมาณ 4 ครั้ง ดูว่าคนไหนที่เหมาะสม
มีหลักการในการช่วยศิลปินอย่างไรบ้าง?
หลักการที่แน่ๆ เลยคือเราไม่ช่วยทั้งหมด โครงการที่เข้ามาเราช่วยเต็มที่คือ 50 เปอร์เซ็นต์ เขาต้องพิสูจน์ด้วยว่าเขามีที่อื่นที่สนับสนุน แต่บางทีการสนับสนุนของเราส่งผลให้เขาหาสปอนต์เซอร์เพิ่มขึ้นได้ กรรมการเรา 2 ปีเปลี่ยนกรรมการคัดเลือก โดยที่เราเปิดให้ใครก็ได้ส่งโครงการเข้ามา กรรมการเลือกดู เราประชุมปีนึงประมาณ 4 ครั้ง ดูว่าคนไหนที่เหมาะสม
hhhh
คุณคิดว่าเราจะแบ่งรอยต่อของงานร่วมสมัยกับงานศิลปะประเพณีตรงไหน?
คือผมคิดว่ารอยต่อนี้มันไม่ต้องแยกก็ได้ จริงๆ ผมคิดว่ามันไหลไปสู่ซึ่งกันและกันได้ อย่าง โอท้อป มันก็ต้องมีต้นน้ำ แล้วมันได้รับแรงบันดาลใจมากจากพ่อครูแม่ครู ช่างศิลป์ แต่จริงๆ โอท้อปเป็นเรื่องร่วมสมัยก็ได้ อย่างงานกรมศิลป์ เราจะจัดที่เมืองทองธานี เมื่อ 3 ปีก่อนเราเอางานพระพุทธรูปสุโขทัย หรือตู้พระธรรมในสมัยอยุธยา มาแสดงร่วมกับงานของ อ.ถวัล ดัชนี หรือว่า ปรีชา เถาทอง เรามองว่ามันมี Dialog ซึ่งกันและกัน ผมเล่าต่อว่าไอเดียนี้เนื่องจากทาง ผู้ว่า อภิรักษ์ (โกษะโยธิน) เชิญให้ไปจัดงานที่หอศิลป์ กทม. แต่ผมก็จะมี Dialog อย่างนี้คือจะมีงานประเพณีแสดงด้วยและมีงานร่วมสมัยด้วย เพราะว่าคนเข้าไปดูในหอศิลป์ของเมืองเขาต้องมีความรู้สึกว่าเขาผูกพันกับมันได้ เข้าใจกับมันได้ ศิลปะร่วมสมัยเพียวๆ หมดเลยมันก็อยู่ในแวดวงคนจำนวนหนึ่งที่สนใจ แต่ถ้าเอาเรื่องประเพณีเข้าไป เราจะดึงคนอีกกลุ่มหนึ่งเข้าไปร่วม
คุณคิดว่าเราจะแบ่งรอยต่อของงานร่วมสมัยกับงานศิลปะประเพณีตรงไหน?
คือผมคิดว่ารอยต่อนี้มันไม่ต้องแยกก็ได้ จริงๆ ผมคิดว่ามันไหลไปสู่ซึ่งกันและกันได้ อย่าง โอท้อป มันก็ต้องมีต้นน้ำ แล้วมันได้รับแรงบันดาลใจมากจากพ่อครูแม่ครู ช่างศิลป์ แต่จริงๆ โอท้อปเป็นเรื่องร่วมสมัยก็ได้ อย่างงานกรมศิลป์ เราจะจัดที่เมืองทองธานี เมื่อ 3 ปีก่อนเราเอางานพระพุทธรูปสุโขทัย หรือตู้พระธรรมในสมัยอยุธยา มาแสดงร่วมกับงานของ อ.ถวัล ดัชนี หรือว่า ปรีชา เถาทอง เรามองว่ามันมี Dialog ซึ่งกันและกัน ผมเล่าต่อว่าไอเดียนี้เนื่องจากทาง ผู้ว่า อภิรักษ์ (โกษะโยธิน) เชิญให้ไปจัดงานที่หอศิลป์ กทม. แต่ผมก็จะมี Dialog อย่างนี้คือจะมีงานประเพณีแสดงด้วยและมีงานร่วมสมัยด้วย เพราะว่าคนเข้าไปดูในหอศิลป์ของเมืองเขาต้องมีความรู้สึกว่าเขาผูกพันกับมันได้ เข้าใจกับมันได้ ศิลปะร่วมสมัยเพียวๆ หมดเลยมันก็อยู่ในแวดวงคนจำนวนหนึ่งที่สนใจ แต่ถ้าเอาเรื่องประเพณีเข้าไป เราจะดึงคนอีกกลุ่มหนึ่งเข้าไปร่วม
kkkkkkkkkhhhh
ทำงานร่วมกับศิลปิน คุณมีวิธีการรับมือกับ ‘อารมณ์ศิลปิน’ อย่างไร?
ผมคิดว่าบางครั้งการมองแบบเหมารวม บางทีไปมองภาพข้างนอกว่าศิลปินเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นพฤติกรรมของเขาก็คงเป็นอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ...คือผมต้องบริหารนักการเมืองด้วยนะ เพราะว่าที่เวียนว่ายเปลี่ยนไปก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่งนะ ต้องอธิบายให้ท่านเห็นว่าศิลปะร่วมสมัยคืออะไรด้วย ซึ่ง 2 อาชีพนี้ไม่ต่างกันเท่าไรนะ มีเหมือนกันคือมั่นใจ อยากแสดงออก บางครั้งใช้อารมณ์ ซึ่งตรงนี้ต่างหากที่เราคุยกันได้ และเขาเริ่มเห็นว่า เราไม่ได้เป็นนายหน้าเวลาเขาขายงาน ตรงกันข้าม เราเพิ่มมูลค่าให้เขา ให้ไปแสดงในประเทศ เราสนับสนุนเขาทุกทาง มันก็เริ่มมีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ตรงนี้มันจะเป็นการพูดปากต่อปากด้วย ผมยืนยันเลยว่าทุกงานที่ศิลปินขายงานหรือเสนองานเขามีงาน เราไม่มีการเก็บคอมมิสชั่น ไม่มีการขอการสนับสนุนอะไรทั้งสิ้น มันจะดีกว่าดีลเลอร์ มันจะดีกว่าแกลอรี่ แต่มันเป็นอะไรที่ใช้เวลา
ทำงานร่วมกับศิลปิน คุณมีวิธีการรับมือกับ ‘อารมณ์ศิลปิน’ อย่างไร?
ผมคิดว่าบางครั้งการมองแบบเหมารวม บางทีไปมองภาพข้างนอกว่าศิลปินเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นพฤติกรรมของเขาก็คงเป็นอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ...คือผมต้องบริหารนักการเมืองด้วยนะ เพราะว่าที่เวียนว่ายเปลี่ยนไปก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่งนะ ต้องอธิบายให้ท่านเห็นว่าศิลปะร่วมสมัยคืออะไรด้วย ซึ่ง 2 อาชีพนี้ไม่ต่างกันเท่าไรนะ มีเหมือนกันคือมั่นใจ อยากแสดงออก บางครั้งใช้อารมณ์ ซึ่งตรงนี้ต่างหากที่เราคุยกันได้ และเขาเริ่มเห็นว่า เราไม่ได้เป็นนายหน้าเวลาเขาขายงาน ตรงกันข้าม เราเพิ่มมูลค่าให้เขา ให้ไปแสดงในประเทศ เราสนับสนุนเขาทุกทาง มันก็เริ่มมีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ตรงนี้มันจะเป็นการพูดปากต่อปากด้วย ผมยืนยันเลยว่าทุกงานที่ศิลปินขายงานหรือเสนองานเขามีงาน เราไม่มีการเก็บคอมมิสชั่น ไม่มีการขอการสนับสนุนอะไรทั้งสิ้น มันจะดีกว่าดีลเลอร์ มันจะดีกว่าแกลอรี่ แต่มันเป็นอะไรที่ใช้เวลา
hhhhh
ปัจจุบันนี้จนมาถึงวันนี้แวดวงศิลปะในเมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง?
ผมกำลังทำหนังสือรวมเล่มบทความผมอยู่ เขียนตั้งแต่ปีค.ศ. 1991 จนถึงปัจจุบัน แล้วผมกลับไปอ่าน โอ้โห บ้านเราพัฒนาขึ้นเยอะมาก เครดิตต้องมอบให้พวกศิลปินเลย คือเขาต่อสู้มาขนาดที่ทางเอกชนและรัฐไม่ได้สนับสนุนให้เท่าไหร่ เขาทะลุทะลวงมาจนถึงตรงนี้ได้ มันทำให้เห็นว่าทรัพยากรในบ้านเราในมิติของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเยอะมาก เพียงแต่ว่าเข็นให้ถูกทางเท่านั้นเอง แต่ส่วนใหญ่เราจะยิงเท้าตัวเองเสมอ จนเราไม่เหลือนิ้วเท้าแล้ว ไม่เรียนรู้สักทีว่าศักยภาพมันมีกองอยู่แล้ว นี่คือการบริหารจัดการองค์ความรู้ เรามีเยอะแต่ถ้าเกิดเราหยิบผิดที่ผิดทางมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ หรือหยิบนิดเดียวแต่ว่าไม่เวิร์ค มันก็กลับไปเรื่องของการเลือก อย่างที่บอกว่าถ้าดูเป็น ดูตาเดียวก็ได้ เลือกได้ ดึงมาใช้ได้ พอมันเวิร์กปั๊บมันก็สามารถที่จะไปของมันได้
hhhhhปัจจุบันนี้จนมาถึงวันนี้แวดวงศิลปะในเมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง?
ผมกำลังทำหนังสือรวมเล่มบทความผมอยู่ เขียนตั้งแต่ปีค.ศ. 1991 จนถึงปัจจุบัน แล้วผมกลับไปอ่าน โอ้โห บ้านเราพัฒนาขึ้นเยอะมาก เครดิตต้องมอบให้พวกศิลปินเลย คือเขาต่อสู้มาขนาดที่ทางเอกชนและรัฐไม่ได้สนับสนุนให้เท่าไหร่ เขาทะลุทะลวงมาจนถึงตรงนี้ได้ มันทำให้เห็นว่าทรัพยากรในบ้านเราในมิติของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเยอะมาก เพียงแต่ว่าเข็นให้ถูกทางเท่านั้นเอง แต่ส่วนใหญ่เราจะยิงเท้าตัวเองเสมอ จนเราไม่เหลือนิ้วเท้าแล้ว ไม่เรียนรู้สักทีว่าศักยภาพมันมีกองอยู่แล้ว นี่คือการบริหารจัดการองค์ความรู้ เรามีเยอะแต่ถ้าเกิดเราหยิบผิดที่ผิดทางมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ หรือหยิบนิดเดียวแต่ว่าไม่เวิร์ค มันก็กลับไปเรื่องของการเลือก อย่างที่บอกว่าถ้าดูเป็น ดูตาเดียวก็ได้ เลือกได้ ดึงมาใช้ได้ พอมันเวิร์กปั๊บมันก็สามารถที่จะไปของมันได้
เรื่องการเมืองมีผลต่อการทำงานของกรมมากน้อยแค่ไหน?
ตลอดเวลา (หัวเราะ) เพราะว่าเมื่อเช้าก็เพิ่งไปให้ดอกกุหลาบอำลานายกรัฐมนตรีวันสุดท้าย เดี๋ยวก็ต้องมีนายกฯ ท่านใหม่เข้ามา ก็อาจจะมีนโยบายใหม่ คือผมเต้นตามเพลงได้ ดีเจเปิดเพลงอะไรมาผมเต้นตามได้หมด เพียงแต่ว่าดีเจต้องเข้าใจว่าเพลงที่มีให้เลือกหยิบอะไรขึ้นมาแล้วมันเวิร์ก บางเพลงก็เวิร์กมาก บางเพลงก็ไม่ตรงกัน ถ้าเผื่อทรัพยากรวางแผ่อย่างนี้แล้วยังไม่หยิบมาใช้ให้ถูกทาง ก็เป็นอะไรที่น่าเสียดาย
ตลอดเวลา (หัวเราะ) เพราะว่าเมื่อเช้าก็เพิ่งไปให้ดอกกุหลาบอำลานายกรัฐมนตรีวันสุดท้าย เดี๋ยวก็ต้องมีนายกฯ ท่านใหม่เข้ามา ก็อาจจะมีนโยบายใหม่ คือผมเต้นตามเพลงได้ ดีเจเปิดเพลงอะไรมาผมเต้นตามได้หมด เพียงแต่ว่าดีเจต้องเข้าใจว่าเพลงที่มีให้เลือกหยิบอะไรขึ้นมาแล้วมันเวิร์ก บางเพลงก็เวิร์กมาก บางเพลงก็ไม่ตรงกัน ถ้าเผื่อทรัพยากรวางแผ่อย่างนี้แล้วยังไม่หยิบมาใช้ให้ถูกทาง ก็เป็นอะไรที่น่าเสียดาย
hhhhh
ส่วนตัวแล้ว คุณมีอะไรที่ยังต้องทำให้สำเร็จในหน้าที่ตรงนี้อีก?
เยอะมาก เป้าที่ผมวางไว้คือ ผมเหลือเวลาอีก 9 ปีก่อนเกษียณ ผมยังอยากให้อุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรมมันเกิดขึ้นมาได้อย่างเต็มที่สักที มันจะช่วยให้ศิลปินทุกสาขามีเป้าหมายที่ชัดเจน และจะมีงานมีอาชีพให้กับคนอีกมากมาย อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องเวทีและพื้นที่ คงต้องมาดูแลเรื่องของหอศิลป์ เรามีโรงการจะทำในเนื้อที่ 35 ไร่ที่ติดกับกระทรวงวัฒนธรรม มันจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมา และจะมีหอศิลป์สร้างขึ้นมา ผมก็มองว่าตรงนั้นจะทำยังไงให้พื้นที่มีกิจกรรม ตอนนี้กระทรวงวัฒนธรรมเวิ้งว้าง คือช่วงกลางวันไม่ค่อยมีกิจกรรม จะมีช่วงกลางคืน จะทำอย่างไรให้พื้นที่ตรงนั้นเหมือนเวทีขนาดใหญ่เลย แล้วต่อไปตรงแถว อสมท. มันมีพื้นที่เกือบ 50 กว่าไร่ ถ้าเผื่อสมมติว่าเขาสนใจงานกิจกรรมอะไรต่างๆ ก็จะมีเวทีสำหรับเวลา ครม.หรือทูต เวลาจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ แล้ว อสมท. สามารถที่จะประชาสัมพันธ์ออกไป มันจะเป็นเหมือนกับบริเวณที่เต็มไปด้วยกิจกรรม ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สามารถที่จะทำ และก็หวังว่าจะทำให้ได้ครับ
ส่วนตัวแล้ว คุณมีอะไรที่ยังต้องทำให้สำเร็จในหน้าที่ตรงนี้อีก?
เยอะมาก เป้าที่ผมวางไว้คือ ผมเหลือเวลาอีก 9 ปีก่อนเกษียณ ผมยังอยากให้อุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรมมันเกิดขึ้นมาได้อย่างเต็มที่สักที มันจะช่วยให้ศิลปินทุกสาขามีเป้าหมายที่ชัดเจน และจะมีงานมีอาชีพให้กับคนอีกมากมาย อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องเวทีและพื้นที่ คงต้องมาดูแลเรื่องของหอศิลป์ เรามีโรงการจะทำในเนื้อที่ 35 ไร่ที่ติดกับกระทรวงวัฒนธรรม มันจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมา และจะมีหอศิลป์สร้างขึ้นมา ผมก็มองว่าตรงนั้นจะทำยังไงให้พื้นที่มีกิจกรรม ตอนนี้กระทรวงวัฒนธรรมเวิ้งว้าง คือช่วงกลางวันไม่ค่อยมีกิจกรรม จะมีช่วงกลางคืน จะทำอย่างไรให้พื้นที่ตรงนั้นเหมือนเวทีขนาดใหญ่เลย แล้วต่อไปตรงแถว อสมท. มันมีพื้นที่เกือบ 50 กว่าไร่ ถ้าเผื่อสมมติว่าเขาสนใจงานกิจกรรมอะไรต่างๆ ก็จะมีเวทีสำหรับเวลา ครม.หรือทูต เวลาจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ แล้ว อสมท. สามารถที่จะประชาสัมพันธ์ออกไป มันจะเป็นเหมือนกับบริเวณที่เต็มไปด้วยกิจกรรม ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สามารถที่จะทำ และก็หวังว่าจะทำให้ได้ครับ
kkkk
ก็เป็นอีกหนึ่งบุคคล ที่มีความคิดที่สร้างสรรค์ และมีโอกาสทำงานที่สร้างสรรค์ สิ่งดีดีให้กับสังคมอีกท่าน ที่huahinhub ขออนุญาต หยิบยกมา บอกต่อ ไว้ให้ชาวหัวหิน ได้รับทราบ และนำไปคิดต่อ..ถึงการดำเนินชีวิต การทำงาน และการทำประโยชน์ให้กับสังม ต่อไป...สวัสดี
hhhhh
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.happeningnow.net เรื่อง: วิภว์ บูรพาเดชะภาพ: ชลิตา จำเนียรไวย
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.happeningnow.net เรื่อง: วิภว์ บูรพาเดชะภาพ: ชลิตา จำเนียรไวย
huahinhub Thanks
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น